'รถไฟสายด่วนจีน' ขึ้นแท่น 'เส้นเลือดใหญ่การค้า' จีน-ยุโรป ท่ามกลางการระบาดใหญ่

โตเกียว, 13 มิ.ย. (ซินหัว) -- รายงานล่าสุดจากนิตยสารนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่ารถไฟสายด่วนไชน่า เรลเวย์ เอ็กซ์เพรส (China Railway Express) กลายเป็น "ตัวเลือกที่มีราคาย่อมเยาและรวดเร็วกว่าสำหรับการขนส่งสินค้าทุกอย่างจากจีนสู่ยุโรป ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงของใช้ในครัวเรือน" ท่ามกลางการหยุดชะงักครั้งใหญ่ของห่วงโซ่การขนส่งทางทะเลและทางอากาศทั่วโลก สืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

รถไฟสายด่วนฯ ซึ่งเปิดดำเนินการมาประมาณราว 10 ปี ได้กลายเป็น "ส่วนสำคัญ" ของแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ซึ่ง "กำลังพลิกโฉมสู่การเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางการค้าระหว่างจีนและยุโรป" นิตยสารฯ ระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (11 มิ.ย.)

รายงานเผยว่าการขนส่งสินค้าโดยรถไฟสายด่วนฯ นั้นรวดเร็วและมีต้นทุนต่ำกว่าเนื่องจากผสานรวมบริการทางอากาศและรถไฟไว้ด้วยกัน พร้อมอธิบายว่าปกติแล้วการจัดส่งสินค้าจากญี่ปุ่นสู่ยุโรปทางทะเลจะใช้เวลาประมาณ 40 วัน ทว่าหากจัดส่งสินค้าทางอากาศไปยังนครฉางซาหรือซีอันของจีน ต่อด้วยการบรรทุกสินค้าขึ้นรถไฟสายด่วนฯ จะใช้เวลา 20-30 วัน และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการบินตลอดเส้นทางถึงครึ่งหนึ่ง

รายงานกล่าวว่านิปปอน เอ็กเพรส (Nippon Expres) บริษัทโลจิสติกส์ระดับโลกของญี่ปุ่น ได้เช่าพื้นที่บนรถไฟสายด่วนฯ เพื่อขนส่งเครื่องใช้ ชิ้นส่วนรถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ผลิตโดยบริษัทญี่ปุ่นและยุโรปในจีนไปยังยุโรป

ความต้องการสินค้าในสหรัฐฯ และยุโรปเพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคหันมาจับจ่ายซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ โดยศูนย์การเดินเรือญี่ปุ่นระบุว่าการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเลจากเอเชียไปยังยุโรปเพิ่มสูงถึงร้อยละ 71 เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ราว 1.16 ล้านทีอียู (TEU: หน่วยนับสินค้าที่บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ความยาว 20 ฟุต)

ขณะเดียวกัน รายงานอ้างการรถไฟแห่งประเทศจีนระบุว่าการจราจรของรถไฟสายด่วนฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 75 เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 3,398 ขบวน ในเดือนมกราคม-มีนาคม หลังจากทำสถิติรายปีสูงสุดในปี 2020 ด้วยจำนวนรถไฟ 12,406 ขบวน