คนสร้างคอนเทนท์บนโซเชียลมีเดียทะลุ 50 ล้านคน
TNN ช่อง16
7 ตุลาคม 2563 ( 09:26 )
262
ในยุคที่โซเชียลมีเดียกำลังเฟื่องฟู เหล่าผู้คนที่ใช้ประโยชน์จากมันเพื่อหารายได้ ล้วนเกิดขึ้นในแต่ละวันเป็นดอกเห็ด ซึ่งจากรายงาน “creator economy” ของ Yuanling Yuan ได้สรุปสถิติของเราผู้สร้างผู้ครีเอทคอนเทนท์บนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไว้ดังนี้
- ปัจจุบันมีผู้สร้างคอนเทนท์บน Youtube, Instagram, Twitch, TikTok และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ รวมแล้วกว่า 50 ล้านคน
- 2 ล้านคนใช้โซเชียลมีเดียทำเป็นรายได้หลัก และได้รับเงินเดือนหกหลักจากการสร้างคอนเทนท์แบบรายวันหรือรายสัปดาห์
- มี 90% ของคอนเทนท์ที่เป็นภาพ คลิป เสียง ข้อความ ที่ถูกออกแบบให้เหล่าผู้คนใน Gen Z บริโภคโดยเฉพาะ (โดยคอนเทนท์ทั้งหมดเหล่านี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท)
- สถิติเหล่านี้คือ "การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่"
- ผู้สร้างคอนเทนท์จะเติบโตเร็วขึ้นอีกหลายเท่าทวีคูณ เชื่อว่าจะทะลุ 100 ล้านคนในเวลาไม่นาน
- การเติบโตทั้งหมดจะถูกขับเคลื่อนโดยเหล่า Gen Z
- การกำเนิดขึ้นมาของโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้คนเริ่มสนใจที่จะสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมา โดยที่ตัวเองไม่ต้องไปนั่งเป็นลูกน้องใครในสำนักงาน ผลที่ได้คือ การสร้างรายได้ระดับ 6 หลัก จากการโพสต์คลิป ภาพ เสียง หรือข้อความเพียงโพสต์เดียวเท่านั้น
- การเติบโตของเหล่าผู้สร้างคอนเทนท์ ทำให้เกิดซอฟต์แวร์และเครื่องมือรูปแบบใหม่ ๆ สำหรับใช้งานในการตลาดมากขึ้น โดยมีมูลค่ารวมแล้วกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
- ช่วงต้น ๆ ผู้สร้างคอนเทนท์หารายได้จากโฆษณา แต่ตอนนี้ช่องทางหารายได้มีมากขึ้น ทั้งการสมัครสมาชิก การขายของ หรือการจับมือกับเหล่าแบรนด์ใหญ่ ๆ ต่าง ๆ
Yuanling Yuan อธิบายว่าเศรษฐกิจของผู้สร้างคอนเทนท์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชั้น
- ชั้นแรกถือกำเนิดมาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยุคบุกเบิกตั้งแต่ต้นปี 2000 รวมไปถึง Facebook, Instagram, YouTube และน้องใหม่อย่าง TikTok และ Twitch
- ชั้นสอง คือการสร้างรายได้ ซึ่งบริษัทต่าง ๆ เริ่มเข้ามาลงทุนมากขึ้น
- ชั้นสาม คือการที่เหล่าบริษัทในชั้น 2 มาเปลี่ยนเหล่าผู้สร้างคอนเทนท์ที่ประสบความสำเร็จ ให้กลายเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพไปในที่สุด
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline
แหล่งที่มา forbes.com