‘พิพัฒน์’ เล็งชง ศบค. ยกเลิกไทยแลนด์พาส เริ่ม 1 มิ.ย. กลับไปรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเหมือนก่อนเกิดวิกฤตโควิด
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ว่า กระทรวงฯ จะเสนอต่อที่ประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในเดือนเม.ย.นี้ ให้ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักรเพิ่มเติม ยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในวันแรกที่เดินทางมาถึงไทย และเปลี่ยนมาใช้วิธีการตรวจด้วย ATK โดยสถานพยาบาลรับรองผลการตรวจแทน เมื่อผลตรวจเป็นลบ ถึงจะสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้ เริ่มวันที่ 1 พ.ค. 2565
กระทรวงการท่องเที่ยวฯ พยายามนำเสนอต่อรัฐบาล และ ศบค. ในการปลดล็อกมาตรการเดินทางเพื่อเปิดประเทศ เพราะตอนนี้ประเทศไทยเปรียบเสมือนกระต่ายที่วิ่งเร็วกว่าชาวบ้าน แต่จะทำอย่างไรไม่ให้ชาวโลกสบประมาทว่า ไทยเป็นแค่กระต่าย แต่สุดท้ายก็โดนเต่าแซง โดยเงื่อนไขสำคัญว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จะต้องไม่มีการกระเพื่อมของยอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่รุนแรง กล่าวคือยังรักษาระดับยอดผู้ติดเชื้อที่ไม่เกิน 50,000-60,000 คนต่อวัน รวมยอดผลตรวจ ATK เป็นบวกด้วยแล้ว และมียอดผู้เสียชีวิตไม่เกิน 100 คนต่อวัน
ทั้งนี้ จะเสนอให้มีการยกเลิกไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) หวังเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น กล่าวคือการเดินทางเข้าประเทศไทยจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนปี 2562 ก่อนเจอวิกฤตโควิด-19 ไม่ต้องลงทะเบียนว่าจะเดินทางเป็นนักท่องเที่ยวประเภท Test & Go, แซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) และกักตัว (Quarantine) และตามหลักการควรจะไม่ต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว
แต่ในความเห็นส่วนตัว เพื่อความอุ่นใจของคนไทย ควรจะมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี ATK ในวันแรกที่เดินทางมาถึง แต่ข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่าควรมีการตรวจหาเชื้อด้วย ATK ในวันแรกหรือไม่ ต้องรอทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เคาะอีกครั้ง
ทั้งนี้ เป้าหมายของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยคือการก้าวเป็นผู้นำท่องเที่ยวระดับโลก โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯคาดหวังว่าปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 ล้านคน และมีการฟื้นตัวด้านรายได้การท่องเที่ยวของปีนี้อยู่ที่ 30% ของรายได้การท่องเที่ยวเมื่อปี 2562 ส่วนในปี 2566 รายได้ฟื้นตัว 50% และในปี 2567 รายได้ฟื้นตัว 100% เท่าปี 2562