อนุทิน เผยเตรียมเสนอยกเลิก Thailand Pass คนไทย หากโควิดดีขึ้น!

วันนี้( 5 พ.ค.65) นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุ ภายหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข โดยสถานการณ์การติดเชื้อตอนนี้แนวโน้มลดลง  รวมถึงอัตราการเสียชีวิตที่ลดลง ซึ่งก็เป็นไปตามที่กรมควบคุมโรคคาดการณ์ไว้ หากประชาชนมีส่วนร่วมในการช่วยกันตามมาตรการต่างๆ อัตราครองเตียงในโรงพยาบาล อยู่ที่ร้อยละ20 ซึ่งตอนนี้สอดคล้องกับนโยบาย 3 พอ ยาพอ หมอพอ เตียงพอของกระทรวงสาธารณสุข ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ได้ประกาศโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น แต่ก็พยายามเดินตามแนวที่ตั้งไว้ให้ได้มากที่สุด

หากสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น อาจมีการผ่อนคลายมาตรการในการเข้าประเทศมากขึ้น เช่น อาจจะมีการยกเลิก ไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) ในคนไทยก่อน ส่วนของชาวต่างชาติก็คงจะเป็นลำดับต่อไป

ขณะที่การยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉินที่จะหมดในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ นาย อนุทิน ระบุว่าต้องอยู่ที่ ศบค.เป็นผู้พิจารณา แต่ส่วนตัวมองว่า พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน อีกด้านผลดีของ พ.ร.ก ฉุกเฉิน คือ ดีต่อการควบคุม ป้องกัน ทางด้านสุขภาพในการเป็นเครื่องมือทางด้านกฎหมายให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำงานในการควบคุมป้องกันโรคได้ง่ายขึ้น เช่นในการควบคุมการดูแลการเดินทางช่วงโควิด-19 การตรวจเชื้อ รวมถึงการปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆเพื่อควบคุมโรค แต่หากโควิด-19 เข้าสู่โรคประจำถิ่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็อาจจะไม่มีความจำเป็น 

ทั้งนี้ ไทยถือว่ามีความระมัดระวังตัวป้องกันมากกว่าประเทศอื่น เช่น การใส่หน้ากากอนามัย ที่ไทยยังคงใส่อยู่ ซึ่งในหลายประเทศได้มีการผ่อนคลายบ้างแล้ว 

ส่วนตอนนี้ที่ภาคอีสานมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงและอยู่ในช่วงขาขึ้นนั้นสวนทาง เทียบอัตราการเข้ารับวัคซีนชะลอตัว นายอนุทิน ระบุว่า ได้ให้ สสจ. และ อสม. เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่มีนโยบายแจกของเพื่อนแลกกับการให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน เพราะการฉีดวัคซีนเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล 

ทั้งนี้ ติดเชื้อติดได้หากป็นโรคประจำถิ่นก็จะเหมือนโรคอื่น มียา มีวัคซีน  มีแพทย์รักษา สามารถดำเนินการใช้ชีวิตต่อได้

ส่วนการเลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้นายอนุทิน ระบุว่า กรมควบคุมโรค อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถึงแนวทางในการให้ผู้ติดเชื้อโควิด19 เดินทางมาใช้สิทธิได้ที่คูหา  อาจจะเป็นในรูปแบบจัดพื้นที่คูหาเฉพาะในแต่ละพื้นที่การเลือกตั้ง  ซึ่งรูปแบบจะคล้ายกับการที่ให้เด็กนักเรียนมาสอบตามสนามสอบ ส่วนตัวมองว่าผู้ติดเชื้อทุกคนควรมีสิทธิ์มาเลือกตั้งตามสิทธิ์ของตนเองและไม่ควรไปตัดสิทธิผู้ติดเชื้อ

ภาพจาก ผู้สื่อข่าว TNN ช่อง 16 / TNN Online