DOHOMEเล็งกำลังซื้อฟื้น รุกฐานสาขาอัพยอดขาย
#DOHOME #ทันหุ้น - DOHOME หวังเศรษฐกิจ-กำลังซื้อฟื้น หนุนยอดขายขยายตัว ชู SSSG เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 ยังยืนระดับ 15-18% คาดไตรมาส 2/2565 ยอดขายยังเติบโต เดินหน้าเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง ด้านโบรกเชียร์ "ซื้อ" เคาะเป้า 24บาท
นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงปัจจุบันทั่วโลกจะต้องเผชิญปัญหาการปรับตัวสูงขึ้นของต้นทุนหลายอย่าง ทั้งด้านราคาพลังงานที่ผันผวนในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ราคาเหล็กที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนของบริษัทเช่นเดียวกัน แต่บริษัทได้วางแผนรับมือกับความเสี่ยงดังกล่าว
SSSG แตะ 18%
โดยหากผลิตภัณฑ์ใดที่มีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็จะมีการสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า 165 วัน เพื่อรองรับการขาย และหากว่าคู่ค้ามีความจำเป็นในการปรับขึ้นราคาขายหลังจากที่ต้นทุนวัตถุดิบ ไม่ว่าจะค่าขนส่ง ค่าเชื้อเพลิง ค่าวัตถุดิบเหล็กต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทก็มีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาตาม เพื่อรักษาระดับความสามารถในการบริหารจัดการอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์
สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2565มีทิศทางการเติบโตที่ค่อนข้างดีอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 15-18%สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งในต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่งผลให้คาดว่าการเติบโตของยอดขายในไตรมาส 2/2565จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า
ขณะที่การขยายสาขาใหม่ในไตรมาส 2/2565จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 สาขา ลดลงจากแผนเดิมวางเป้าหมายเปิดสาขาไซส์ L ใหม่ 2 แห่ง ในภาคเหนือเเละภาคกลาง ทำให้เลื่อนกำหนดเปิดสาขาไปเป็นต้นไตรมาส 3/2565 จำนวน 1 สาขาแทน แต่อย่างไรก็ดี ทั้งปี 2565 ยังคงแผนการเปิดสาขาไซซ์ L จำนวน 5 สาขา ซึ่งก็คาดว่าการเปิดสาขาใหม่จะช่วยสร้างยอดขายให้กับบริษัทได้เพิ่มในปีนี้อีกด้วย
Q1 รายได้โต 36.3%
สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/2565 บริษัทมีกำไร 459.53 ล้านบาท ลดลง 15.4%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 543.15 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้รวมไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 8,359.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.3%โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากการเพิ่มขึ้นของรายได้สาขาเดิมที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และรายได้จากสาขาใหม่ที่เปิดในไตรมาส 1/2565
ซึ่งการขยายสาขาในไตรมาสแรกของปี 2565กลุ่มบริษัทได้เปิดสาขาขนาดใหญ่เพิ่มจำนวน 1 สาขา ได้แก่สาขาหาดใหญ่ ทำให้มีสาขาขนาดใหญ่ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 17 สาขา และเปิดสาขา Dohome ToGo เพิ่มจำนวน 1 สาขา ได้แก่ สาขาตลาดบางศรีเมือง และมีการปิดสาขา Dohome ToGo จำนวน 2 สาขา ทำให้สาขาขนาด Dohome ToGo ที่เปิดบริการทั้งสิ้นจำนวน 9 สาขา
กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 1,464.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 17.6% ลดลง เมื่อเทียบกับอัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาส 1/2564 ที่ 21.7%สาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าและการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มก่อสร้าง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 874.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 268.43 ล้านบาทหรือ 44.3%
เคาะเป้าหมาย 24บ.
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด แนะนำ “ซื้อ” DOHOME มูลค่าเหมาะสม 24.00 บาท โดยไตรมาส 1/2565 DOHOME เปิดสาขาในจังหวัดหาดใหญ่ และ ToGo 1 สาขา ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2565 มีสาขาทั้งหมด 17 สาขาใหญ่ และสาขารูปแบบ ToGo 9 สาขา รายได้ค่าเช่าระหว่างงวดเติบโต 90%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ได้รับการสนับสนุนจากเงินอุดหนุนที่เพิ่มขึ้นจากซัพพลายเออร์ อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนแปลง Product Mix (เน้นที่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง) SSSG ยังคงสูงที่ 15-17% QTD ดีขึ้นหลังวันหยุดสงกรานต์ ดัน SSSG ไปที่ 20%