รีเซต

สปสช.ออกแนวทางรักษาผู้ป่วยพื้นที่ประสบอุทกภัย

สปสช.ออกแนวทางรักษาผู้ป่วยพื้นที่ประสบอุทกภัย
TNN ช่อง16
8 ตุลาคม 2567 ( 11:31 )
16
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  ระบุถึง สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือในขณะนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมศักดิ์ เทพสุทิน ได้สั่งการให้ สปสช.ให้ความช่วยเหลือประชาชนและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ และกำชับให้จัดระบบเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการต่อเนื่อง ซึ่ง สปสช.ได้เตรียมแนวทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยและสถานพยาบาล ดังนี้ 1.สำหรับประชาชนทั่วไปนั้น หากหน่วยบริการที่ประชาชนลงทะเบียนไว้ถูกน้ำท่วมหรือมีอุปสรรคในการเดินทางไปรับบริการ สามารถไปรับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิอื่นได้ทันทีตามแนวทาง 30 บาทรักษาทุกที่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงพยาบาลประจำอำเภอ/จังหวัด หรือหน่วยบริการนวัตกรรม ทั้ง ร้านยาคุณภาพ คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น ที่เข้าร่วมให้บริการ 2.สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องเข้ารับบริการตามนัดนั้น ทางเทศบาล/อบต.มีกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) ที่ร่วมกับ สปสช. อยู่แล้ว สามารถใช้งบประมาณจากกองทุนนี้ในการจัดรถรับส่งผู้ป่วยในชุมชนได้ นอกจากนั้นสถานพยาบาลยังสามารถจัดระบบบริการการแพทย์ทางไกลเพื่อดูแลผู้ป่วยได้ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีระเบียบการเบิกจ่ายของ สปสช.รองรับในส่วนนี้ไว้แล้ว 3.กรณีอุบัติเหตุ ฉุกเฉิน สามารถเข้ารักษาหน่วยบริการในระบบ สปสช.ได้ทุกแห่ง โดยใช้สิทธิในจังหวัดหรือข้ามจังหวัดได้ กรณีเข้ารับบริการหน่วยบริการแล้วมีปัญหาหรือถูกเรียกเก็บเงินให้ โทร.สายด่วน สปสช. 1330 เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ 4.ในส่วนผู้ป่วยที่ล้างไตทางช่องท้องนั้น สปสช.มีระบบส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านและมีจำนวนเก็บสำรองได้มากเพียงพอ จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม และบริษัท ไปรษณีย์ไทย ดิสทริบิวชั่น จำกัด พบว่ายังไม่ส่งผลกระทบการจัดส่ง ผู้ป่วยได้รับน้ำยาล้างไตตามรอบปกติ แต่ในส่วนของสถานพยาบาลฟอกไตนั้น มีปิดให้บริการ 4 แห่ง ซึ่งทางสถานพยาบาลได้ประสานส่งต่อผู้ป่วยไปรับบริการฟอกไตที่สถานพยาบาลอื่นแล้ว หากประชาชนติดขัดไม่สามาถเข้ารักษาได้ ให้โทร.มาที่สายด่วน สปสช. 1330 เพื่อประสานความช่วยเหลือต่อไป 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง