นายกฯ บินเชียงรายลุยดูน้ำท่วม - มอบถุงยังชีพ ติดตามปราบแก๊งคอลฯ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส. ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร2กองบิน6ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ที่บ้านสบเปา ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย จากนั้นคณะเดินทางไปพบและให้กำลังใจประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ที่วัดสันติคีรี อำเภอพญาเม็งราย

นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.ให้ประสานความร่วมมือ ช่วยเหลือด้านกำลังพลและอุปกรณ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ปภ. ดูแลจัดเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ย้ำให้ กระทรวงศึกษาธิการเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อม 24 ชั่วโมง 

ส่วนการแจ้งเตือนประชาชน ให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  และกระทรวงดีอี โดยเฉพาะกรมอุตุนิยมวิทยา ดำเนินการแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะ ทั้งทาง Cell Broadcast และ การแจ้งข่าวโดยตรงจากในพื้นที่ ซึ่งวันนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ส่งข้อความผ่าน “เซลล์บอร์ดแคสต์” ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับจุดที่เกิดอุทกภัยแล้วโดยจะเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

นายกรัฐมนตรี  ยืนยันว่า รัฐบาลมีความพร้อมในการดูแลทุกชีวิต และจะดำเนินการแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ทันต่อความต้องการของประชาชน ยาต้องพร้อม อาหารต้องครบ 3 มื้อ เพราะความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ และนโยบายการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ จะต้องเกิดขึ้นโดยเร็วในอนาคต เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตเพิ่มขึ้น

ขณะที่  ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางต่อไปที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน เพื่อพบปะกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ตามที่ครม.อนุมัติหลักเกณฑ์เร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้กับบุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน และบุตรที่เกิดในประเทศไทย เพื่อลดขั้นตอนให้ได้รับสถานะทางทะเบียนและสัญชาติไทยอย่างรวดเร็ว 

โอกาสนี้  นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปติดตามการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ยังบริเวณ สามเหลี่ยมทองคำที่ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย  โดยจะมีการหารือกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ถึงมาตรการต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์  ก่อนเดินทางกลับถึงกทม.ในช่วงเย็นวันเดียวกัน