ยาบ้าราคาถูก 8-10 บาท สู่ปัญหาใหญ่ ชุมชนพัง-สังคมล่มสลาย?
สถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทย จากพื้นที่ชายแดนสู่ใจกลางชุมชน
เมื่อราคายาบ้าในประเทศเพื่อนบ้านถูกลงเหลือเพียงเม็ดละ 8-10 บาท ส่งผลให้การลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าวิตก โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับ สปป.ลาว ซึ่งมีทั้งช่องทางผ่านแดนที่เป็นด่านถาวรและช่องทางธรรมชาติจำนวนมาก
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าและขนส่งยาเสพติด
ในช่วงที่ผ่านมา เครือข่ายการค้ายาเสพติดได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการอย่างซับซ้อนมากขึ้น จากเดิมที่ใช้เส้นทางบกเป็นหลัก ได้ขยายไปสู่การใช้เส้นทางน้ำ โดยเฉพาะในแม่น้ำโขง ดังเห็นได้จากการจับกุมยาบ้ากว่า 6.4 ล้านเม็ด ที่บ้านสบรวก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้ ยังมีการใช้บริการไปรษณีย์และบริษัทขนส่งเอกชนในการลำเลียงยาเสพติด รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการติดต่อซื้อขาย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ทำให้ผู้ค้าและผู้ซื้อติดต่อกันได้โดยตรง พร้อมทั้งใช้สกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี่ในการชำระเงิน ทำให้การตรวจจับและปราบปรามทำได้ยากขึ้น
สามเหลี่ยมทองคำ: แหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่ของภูมิภาค
พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นจุดบรรจบของพรมแดนไทย เมียนมา และลาว ยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีการพัฒนารูปแบบยาเสพติดใหม่ๆ เพื่อดึงดูดผู้เสพรายใหม่อยู่เสมอ การลักลอบขนส่งยาเสพติดจากแหล่งผลิตในเมียนมาผ่าน สปป.ลาว ก่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ยาเสพติดแพร่กระจายในพื้นที่ชายแดนมากขึ้น
สถานการณ์ในจังหวัดเลย พื้นที่เสี่ยงชายแดน
จังหวัดเลย เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในปี 2566 พบว่ามีหมู่บ้านที่มีปัญหายาเสพติดเพิ่มขึ้นเป็น 258 หมู่บ้าน จาก 219 หมู่บ้านในปี 2565 โดยเฉพาะในอำเภอเอราวัณที่มีสัดส่วนหมู่บ้านที่มีปัญหายาเสพติดสูงถึงร้อยละ 57.45 และอำเภอภูหลวงร้อยละ 54.35
สถิติการจับกุมและของกลาง
- ยาบ้า 555.7 ล้านเม็ด
- ยาไอซ์ 26,662 กิโลกรัม
- เฮโรอีน 4,520 กิโลกรัม
- เคตามีน 1,350 กิโลกรัม
- โคเคน 45 กิโลกรัม
- ยาอี 447,213 เม็ด
- กัญชา 41,573 กิโลกรัม
การบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
ในด้านการบำบัดรักษา มีการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม โดยในปี 2566 มีผู้เข้ารับการบำบัดที่โรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์และสถานพยาบาลในเครือข่ายเพิ่มขึ้นถึง 2,361 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 80.37 จากปีก่อน โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองเลยที่มีผู้เข้ารับการบำบัดสูงถึง 790 ราย
มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา
1. การตั้ง KPI วัดผลการทำงาน
รัฐบาลได้ประกาศมาตรการเข้มงวดโดยการตั้ง KPI เป็นตัวชี้วัดการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองใน 14 จังหวัด กำหนดระยะเวลา 6 เดือนในการแสดงผลงาน โดยผลการปฏิบัติงานจะมีผลต่อการเลื่อนยศ ปลด และย้ายตำแหน่ง
2. การสร้างเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง
โครงการ TO BE NUMBER ONE ได้ขยายเครือข่ายครอบคลุมทั้งสถานศึกษา สถานประกอบการ และชุมชน โดยในจังหวัดเลยมี:
- ชมรมในสถานศึกษา 439 ชมรม
- สถานประกอบการ 35 ชมรม
- ชุมชน TO BE NUMBER ONE 164 ชมรม
3. การป้องกันในกลุ่มเสี่ยง
มุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนกลุ่มเสี่ยงอายุ 13-29 ปี ผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกสถานศึกษา
มุมมองของประชาชน
ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยสำนักงานสถิติจังหวัดเลย แสดงให้เห็นว่า
- ร้อยละ 49.5 ต้องการให้ใช้กฎหมายลงโทษผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด
- ร้อยละ 45.7 สนับสนุนการปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
- ร้อยละ 21.2 เสนอให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง
แนวทางการแก้ไขปัญหาในอนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดจำเป็นต้องดำเนินการแบบบูรณาการ ประกอบด้วย
1. การเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นตามแนวชายแดน
2. การพัฒนาระบบการคัดกรองและบำบัดรักษา
3. การส่งเสริมบทบาทของชุมชนในการป้องกันและเฝ้าระวัง
4. การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างทางเลือกให้กับประชาชน
5. การใช้เทคโนโลยีและการข่าวในการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติด
ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่อาจเกิดขึ้นได้จากการดำเนินการของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ในการร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน
ภาพ Freepik
อ้างอิง
สำนักงาน ป.ป.ส. (ข้อมูลสถิติการจับกุมและของกลางยาเสพติด)
https://loei.nso.go.th/images/web67/A4__%20.pdf
ข้อมูลเครือข่าย TO BE NUMBER ONE
โรงพยาบาลจิตเวชเลยราชนครินทร์ (ข้อมูลการบำบัดรักษา)
สำนักงานสถิติจังหวัดเลย (ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน)