รีเซต

สปสช. แจงแล้ว! ปมพนักงานธ.ก.ส. รักษาโควิดที่บ้าน ถูกเก็บเงินหลักหมื่น

สปสช. แจงแล้ว! ปมพนักงานธ.ก.ส. รักษาโควิดที่บ้าน ถูกเก็บเงินหลักหมื่น
ข่าวสด
27 มีนาคม 2565 ( 17:11 )
49
สปสช. แจงแล้ว! ปมพนักงานธ.ก.ส. รักษาโควิดที่บ้าน ถูกเก็บเงินหลักหมื่น

สปสช. แจงแล้ว พนักงาน ธ.ก.ส. รักษาโควิดที่บ้าน ถูกเรียกเก็บเงินหลักหมื่น เป็นผู้ป่วยสิทธิ ธ.ก.ส. เผย โรงพยาบาลใช้อัตราเบิกจ่าย HI เรตเดียวกับ สปสช.

 

จากกรณีพนักงานธนาคาร ธ.ก.ส. เข้ารักษาโควิด 19 ผ่านระบบรักษาที่บ้าน (HI) โดยจับคู่ โรงพยาบาลวาปีปทุมให้การดูแล แต่ถูกเรียกเก็บเงินค่ารักษา ใบเสร็จระบุเบิกค่าห้องโรงพยาบาลและค่าอาหาร รวม 10 วัน 10,000 บาท และค่ายา 59 บาท รวมเป็น 10,059 บาท โดยแจ้งให้สำรองจ่ายและเบิกกับต้นสังกัดเอง ทั้งที่รักษาตัวที่บ้าน ทำอาหารกินเองหรือญาตินำส่ง และไม่มีหมอจากโรงพยาบาลมาพบเลยนั้น

 

วันที่ 27 มี.ค.2565 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า เนื่องจากเป็นพนักงาน ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีระเบียบของตัวเองในการดูแลกรณีเจ็บไข้ได้ป่วย ที่แยกออกจากระบบอื่น กรณีที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรงพยาบาลวาปีปทุม เข้าใจว่าผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิ์จากรัฐวิสาหกิจที่ ธ.ก.ส.ดูแล

 

ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลจึงเรียกเก็บไปที่ต้นสังกัด โดยใช้อัตราการเบิกจ่ายที่อิงอัตราเดียวกับที่สปสช.ประกาศ คือ ระดับอาการสีเขียวให้รักษาตัวที่บ้าน จะมีการจับคู่ระหว่างผู้ป่วยกับโรงพยาบาลที่ดูแล มีเกณฑ์วิธีการดูแล นำยาไปให้ตามอาการ มีอุปกรณ์ตรวจวัดไข้และออกซิเจนปลายนิ้ว และมีแพทย์ติดตามอาการวันละ 2 ครั้งหรือแล้วแต่โรงพยาบาลวางระบบ ซึ่งสปสช.จะจ่ายค่าบริหารจัดการต่อคนไข้ 1 คนคือวันละ 600 บาท หากมีอาหารด้วยก็เพิ่มอีกวันละ 400 บาท รวมเป็น 1,000 บาทต่อวัน

 

"คนไข้อาจจะต้องสำรองจ่ายไปก่อนแล้วไปเบิกกับต้นสังกัด ซึ่งผมได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยัง ธ.ก.ส.แล้วช่วงดึกวันที่ 26 มี.ค. ได้รับคำตอบว่า เคสนี้อยู่ในความดูแลของ ธ.ก.ส. เพียงแต่กติกาของ ธ.ก.ส.เมื่อทางโรงพยาบาลเรียกเก็บค่าใช้จ่าย จะมีเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.โทรไปสอบถามทางโรงพยาบาลเพื่อยืนยันอีกที ปัญหาที่เกิดขึ้นคงต้องดูเป็นรายกรณี หากเป็นคนไข้บัตรทองหรือข้าราชการ มีกติกาชัดเจนให้เรียกเก็บกับ สปสช.หากมีปัญหาก็สามารถติดตามได้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน หรือเกิดจากความเข้าใจผิด หรือไม่รู้ หรือจงใจ สปสช.ก็จะเข้าไปติดตามและแก้ปัญหา" ทพ.อรรถพร กล่าว

 

เมื่อถามถึงกรณีการรักษา HI จะเกิดช่องโหว่ให้สถานพยาบาลเบิกจ่ายเงินรายหัว แต่ไม่ได้ให้บริการที่เหมาะสมกับผู้ป่วย ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ในส่วนที่สปสช.ดูแล คนไข้ต้องประสานผ่านเข้ามาผ่านระบบ ต้องพิสูจน์ยืนยันตัวตนที่ชัดเจนเป็นอันดับแรกที่เรียกว่า Authentication หากไม่ผ่านระบบดังกล่าวจะไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทุกกรณี เหมือนไปธนาคารที่ต้องมีการยืนยันตัวตนว่าอยู่ที่ธนาคารนี้จริง วันและเวลานี้จริง จะมีรหัสการให้บริการที่ยืนยันจริง จึงจะสามารถเบิกจ่ายได้ ดังนั้นโอกาสที่จะรั่วไหลยาก เหมือนเป็นการเช็คบาลานซ์ แต่ก็มีข้อเสียที่อาจจะต้องใช้เวลาดำเนินการเนื่องจากมีขั้นตอนแต่เราก็ต้องวางระบบให้รัดกุม

 

ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์สายด่วน สปสช.1330 ขณะนี้ดีขึ้น หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีโครงการเจอ แจก จบ ทำให้ผู้ป่วยโทรเข้ามาน้อยลงมาก เพราะส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยก็ไปรับยาที่หน่วยบริการใกล้บ้านหรือหน่วยบริการตามสิทธิได้เลย ทำให้สายลงทะบียนน้อยลงมาก ไม่มีผู้ป่วยคงค้างเป็นศูนย์มาเป็นสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังสงกรานต์คงต้องติดตามสถานการณ์ ซึ่งน่าเป็นห่วง ต้องช่วยกันบอกว่าแม้โรคจะไม่ร้ายแรง แต่ไม่เป็นจะดีกว่า ที่สำคัญขอให้ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิป้องกันตัวเองดีกว่า

 

ด้าน นพ.ประพันธ์ สุนทรปาสิต ผอ.รพ.วาปีปทุม ให้สัมภาษณ์เพียงสั้น ๆ ว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงจะสอบถามข้อมูลรายละเอียดจากผู้ป่วยที่ร้องเรียนด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง