รีเซต

เลขาฯสมช. พร้อมรับมือยอดทะลุหมื่น งดตอบปมถูกเสนอยุบ ศบค. ยันทำงานกันเต็มที่

เลขาฯสมช. พร้อมรับมือยอดทะลุหมื่น งดตอบปมถูกเสนอยุบ ศบค. ยันทำงานกันเต็มที่
มติชน
2 กรกฎาคม 2564 ( 10:17 )
51
เลขาฯสมช. พร้อมรับมือยอดทะลุหมื่น งดตอบปมถูกเสนอยุบ ศบค. ยันทำงานกันเต็มที่

‘เลขาฯสมช.’ รับ เตรียมพร้อมยอดทะยานหมื่น วอน รัฐ-เอกชน-ปชช. จับมือฝ่าวิกฤต งดออกความเห็น เสนอยุบศบค. ยัน ทำงานเต็มที่ตามผู้บังคับบัญชา ไม่รวบอำนาจอยู่ที่ ‘ทำเนียบฯ’ แจง เข็มสามต้องรอก่อนเพราะวัคซีนไม่พอ

 

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ว่า ต้องรอฟังจากกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุม ศปก.ศบค. อีกครั้ง ซึ่งเราก็ประเมินว่าตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจจะสูงขึ้น และพยายามเร่งรัดเรื่องฉีดวัคซีนให้เร็วและมากขึ้น ไม่ได้ฉีดไปเรื่อยๆ ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ไปอีกสักระยะ จะขอประชาชนให้ความร่วมมือทำตามมาตรการส่วนบุคคลโดยเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย หลังจากที่ปิดแคมป์คนงานไปแล้ว และแรงงานต่างด้าวก็อยู่นิ่งกับที่ จำนวนตัวเลขที่มากขึ้นอาจจะเกิดจากการเคลื่อนไหวของบุคคลทั่วไปในสังคมแล้ว ขอย้ำว่าไม่ใช่เพราะตัวเลขสูงขึ้นแล้วโทษประชาชน แต่เป็นการขอความร่วมมือ

 

 

 

เมื่อถามว่า ถ้าตัวเลขยังพุ่งสูงขึ้น มาตราการป้องกันจะเข้มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงไม่เข้มกว่านี้ เพราะตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และศบค. ห่วงความเดือดร้อนของประชาชน และคิดว่ามาตรการที่ใช้อยู่น่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่งภาครัฐอาจจะต้องลงรายละเอียดมากขึ้น รวมถึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ และประชาชนมากขึ้น ถ้าทั้ง 3 ส่วนให้ความร่วมมือ และภาครัฐจริงจัง จากเดิมที่จริงจังอยู่แล้วโดยบุคลากรทางการแพทย์ ทุ่มเท และเหนื่อยล้า จึงต้องมาดูในรายละเอียดกันมากขึ้น ขอย้ำอีกครั้งถึงความร่วมมือของผู้ประกอบการ และประชาชน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่เชื้อ

 

 

เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่จะให้ผู้ป่วยที่รอเตียง กระจายไปรักษานอก กทม. หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในทางระบบยังไม่ถึงขนาดนั้น โดยกระทรวงสาธารสุข และกทม. พยายามเพิ่มจำนวนเตียงอยู่ โดยวันนี้ มณฑลทหารบก ที่ 11 ที่ได้เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยสีแดง และสีเหลือง ได้เปิดทำการ ในส่วนที่ไม่สามารถหาเตียงได้ ก็เดินทางกลับไปรักษาในภูมิลำเนา ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ นอกจากนั้นจะพิจารณาแนวทางรักษาตัวที่บ้าน ที่เป็นระบบรองรับก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ติดเชื้ออยู่บ้านเฉยๆ ที่ยังไม่เริ่มการแยกกักที่บ้านเพราะ กระทรวงสาธารณสุข และศบค. เป็นห่วงว่าอาจทำให้เสี่ยงอาการรุนแรงขึ้น จึงต้องมีระบบรองรับเช่นการติดตาม การตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย

 

 

เมื่อถามว่า หากจำนวนติดเชื้อไปถึงหลักหมื่น ทุกอย่างพร้อมรองรับหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เราคิดไว้ทุกอย่าง ทั้งเพิ่มจำนวนเตียง และจะเพิ่มเรื่อยๆ นับแต่วันนี้ รวมถึงการแยกกักตัวที่บ้าน คาดว่าถ้าภาครัฐทุ่มเท สถานประกอบการภาคเอกชน และประชาชนร่วมมือมาตรการส่วนบุคคล คิดว่าน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ โดยในเดือนกรกฎาคมนี้วัคซีนจะเข้ามา 10 ล้านโดส ซึ่งจะทยอยเข้ามา เมื่อฉีดวัคซีนแล้ว อาจจะป้องกันอาการรุนแรงได้มากขึ้น โดยอาจารย์ทางการแพทย์ชี้แจงว่า สายพันธุ์เดลตาจะติดได้ไวและเพิ่มจำนวนรวดเร็ว แต่จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะไม่มากจนน่ากังวล

 

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เสนอให้ยุบ ศบค. เพราะทำงานล้มเหลว พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขอไม่ตอบในเรื่องนี้ ทั้งนี้เราพยายามทำงานเต็มที่ ให้ดีที่สุด โดยขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา จะพิจารณาตามความเหมาะสม เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่าการทำงานของศบค. ที่ผ่านมา สามารถตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า มั่นใจ การทำงานของศบค. ไม่ได้ทำงานเฉพาะหน่วยงาน แต่ทำงานร่วมกันทุกส่วน โดยลำดับแรกเราจะฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก เสนอมาอย่างไรจะไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าสามารถบังคับใช้ตามที่เสนอได้หรือไม่ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษาธิการ และในศบค. ยังมีส่วนราชการร่วมอีกกว่า 30 หน่วยงาน

 

 

“เราทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ตัดสินใจแค่ ศบค. ที่อยู่ในทำเนียบฯ ที่เดียว เชื่อว่าสามารถแก้ปัญหาได้ เพียงแต่สถานการณ์ระบาดเปลี่ยนแปลงเร็ว ครั้งแรกมาจากต่างประเทศ ครั้งที่สองมาจากผู้ทำงานในสถานบันเทิงที่ท่าขี้เหล็ก ครั้งที่สามจากแรงงานต่างด้าว ครั้งที่สี่จากสถานบันเทิงในประเทศ และครั้งนี้พบจากแรงงานในไซต์ก่อสร้าง และขยายไปถึงบุคคลทั่วไปในสังคม และเชื้อสายพันธุ์ต่างๆ ก็เปลี่ยนไป ศบค. จึงต้องปรับวิธีรองรับกับเชื้อสายพันธุ์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ อยากขอให้ช่วยให้กำลังใจ บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่หน้างาน และเจ้าหน้าที่ที่มาทำงานในศบค.” พล.อ.ณัฐพล กล่าว

 

 

เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของบุคลากรด่านหน้าที่ที่ระบุว่า วัคซีนสองเข็มไม่เพียงพอ ต้องมีเข็มที่สาม พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทางศบค. ได้หารือกับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องนี้อยู่แต่ต้องเรียนว่าวัคซีนมีจำกัด คนที่ยังไม่ได้รับเข็มแรกยังมีอยู่ ต้องว่าไปตามลำดับ ดูแลให้ฉีดเข็มแรกให้มีภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงไปที่เข็มที่สอง เราต้องฉีดให้ประชาชนให้ครบก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง