รีเซต

ข่าวดี! กยศ.ยืดลดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ ถึงมิ.ย.66 มอบเป็นของขวัญปีใหม่

ข่าวดี! กยศ.ยืดลดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ ถึงมิ.ย.66 มอบเป็นของขวัญปีใหม่
TNN ช่อง16
13 ธันวาคม 2565 ( 10:37 )
167
ข่าวดี! กยศ.ยืดลดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ ถึงมิ.ย.66 มอบเป็นของขวัญปีใหม่

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการว่า กยศ. มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ ต่ออีก 6 เดือน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 66 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุน รวมถึงช่วยเหลือและให้โอกาสผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบ ทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคโควิดได้มีทางเลือกในการผ่อนชำระมากขึ้น โดยจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 65 ไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 66

สำหรับรายละเอียดมาตรการลดหย่อนหนี้ มีดังนี้ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.01 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ และลดเงินต้นร้อยละ 5 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว 

ลดเบี้ยปรับร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ หรือไม่ค้างชำระ รวมถึงลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

นอกจากนี้ ยังลดเบี้ยปรับร้อยละ 100 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ดังนี้ ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ และนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีผ่าน www.studentloan.or.th/promotion โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความ และค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี

สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนฯ ขณะนี้ได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวุฒิสภา และกำลังอยู่ระหว่างรอการบรรจุวาระเข้าสภาผู้แทนราษฎร หากเห็นชอบก็สามารถนำมาประกาศบังคับใช้ได้ แต่หากไม่เห็นชอบก็จะต้องมีการนำเข้าสู่การจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภา เพื่อหาข้อยุติซึ่งร่างกฎหมายล่าสุดฉบับวุฒิสภาฯ จะมีการกำหนดเพดานดอกเบี้ยร้อยละ 1 และเบี้ยปรับร้อยละ 0.5 แต่ปัจจุบันกยศ.ก็คิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำอยู่แล้ว

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง