เปิดรายชื่อ 10 ประเทศเจ้าหนี้ - คู่ค้า "กัมพูชา" มีไทยติดอันดับ

กรมความร่วมมือระหว่างประเทศและการบริหารหนี้สินของกัมพูชา (Department of International Cooperation and Debt Management - GDICDM) เปิดเผยข้อมูลว่า ไตรมาสแรกของปี 2568 (Q1 2025) หนี้สาธารณะทั้งหมดของกัมพูชาอยู่ที่ 12.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 99.96% ของหนี้ดังกล่าว เป็นหนี้ต่างประเทศ (external debt)
10 ประเทศ "เจ้าหนี้"
เปิด 10 ประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ของประเทศกัมพูชา ไตรมาสแรก 2568
จีน : 3.981 พันล้านดอลลาร์
ADB (ธนาคารพัฒนาเอเชีย) : 2.581 พันล้านดอลลาร์
ธนาคารโลก : 1.720 พันล้านดอลลาร์
ญี่ปุ่น : 1.328 พันล้านดอลลาร์
เกาหลีใต้ : 689 ล้านดอลลาร์
ฝรั่งเศส : 686 ล้านดอลลาร์
IFAD : 170 ล้านดอลลาร์
AIIB : 53.9 ล้านดอลลาร์
ประเทศไทย : 53.15 ล้านดอลลาร์ ( 1.724 พันล้านบาท) **
เยอรมนี : 15 ล้านดอลลาร์
เวียดนาม : 7.29 ล้านดอลลาร์
อินเดีย : 6.38 ล้านดอลลาร์
ที่มา : Department of International Cooperation and Debt Management - GDICDM
ข้อมูลจากกรมศุลกากร และสรรพสามิตแห่งประเทศกัมพูชา เปิดเผยสถิติการนำเข้าสินค้าจาก 20 ประเทศคู่ค้า ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ระบุ กัมพูชา นำเข้าสินค้าจาก ไทย มูลค่า 1,483,095 พันดอลลาร์สหรัฐฯ ปี 2025 (เดือน ม.ค.-พ.ค. 68) เพิ่มขึ้น 11.0% เมื่อเทียบกับปี 2024 ในช่วงเดียวกัน
10 ประเทศ "คู่ค้า"
เปิด 10 ประเทศคู่ค้าที่กัมพูชานำเข้าสินค้าสูงสุด ม.ค.-พ.ค. 2568
มูลค่า : หน่วยพันดอลลาร์สหรัฐ
จีน : 7,005,413
เวียดนาม : 1,800,503
ไทย : 1,483,095 **
อินโดนีเซีย : 436,246
ญี่ปุ่น : 388,999
สิงคโปร์ : 289,047
มาเลเซีย : 371,754
ไต้หวัน : 301,386
เกาหลีใต้ : 238,181
ฮ่องกง : 135,706
ที่มา : กรมศุลกากร และสรรพสามิตแห่งประเทศกัมพูชา
นายกรัฐมนตรีเผยมาตรการเร่งด่วน
รองรับปมไทย-กัมพูชา ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีทุกคนร่วมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมหามาตรการรองรับ เพื่อจะให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด และขอยืนยันอีกครั้งว่าสถานการณ์เช่นนี้เสถียรภาพของรัฐบาลและความสามัคคีของคนในชาตินั้นสำคัญมาก
ทั้งนี้จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้รัฐมนตรีทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจ ต่อการแก้ไขปัญหา โดยข้อสำคัญที่รัฐบาลได้เน้นย้ำ
ประกอบด้วย
1. ภัยคุกคามของความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ (Nation Crime) จากที่ UNODC ได้รายงานเกี่ยวกับปัญหาพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ได้มีการสั่งการให้ทุกฝ่ายร่วมทำงานด้วยกันอย่างบูรณาการ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายตอบโต้ การเปิด – ปิดด่านชายแดนเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน และประเทศชาติเป็นสิ่งสำคัญ
โดยได้มีการเตรียมมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนบริเวณที่อาศัยอยู่พื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตร โดยได้มีการสั่งการให้ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลได้มีการดำเนินมาตรการร่วมกับภาคเอกชนอยู่ก่อนแล้ว แต่เป็นการเน้นย้ำในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อเป็นการเน้นย้ำเพื่อไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบ
2. ด้านความมั่นคงและพลังงาน ทางด้านกระทรวงพลังงานได้มีการกำหนดมาตรการรับมือสำหรับพลังงานสำรอง และมาตรการในรองรับช่วยเหลือประชาชนหากเกิดกรณีมีการขาดแคลน หรือหากมีการปรับตัวของราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น
3. ปัญหาด้านเศรษฐกิจการเงินและการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน โดยให้ทางด้านกระทรวงการคลังได้กำหนดมาตรการ และเป้าหมายที่ชัดเจนในการช่วยเหลือประชาชน ภาคธุรกิจในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าของประเทศ
4. เรื่องราคาพืชผล ได้มีการมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการหามาตรการในการแก้ไขปัญหา อย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของราคาข้าวที่ต้องมีการเร่งสนับสนุน สรุปมาตรการเยียวยาแก่เกษตรกรให้ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งการให้มีการเร่งตรวจสอบ ในเรื่องของการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อน ผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านที่จะส่งผลกระทบต่อราคา พืชผลและสินค้าเกษตรในประเทศไทยได้รับผลกระทบราคาตกต่ำ
5. ปัญหาด้านยาเสพติด ได้มีการสั่งการให้กระทรวงกลาโหม ดำเนินการบูรณาการทำงานระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการตำรวจทุกจังหวัด กำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรมโดยเน้นย้ำให้มีเป้าหมายที่ชัดเจน และขยายผลมากยิ่งขึ้นจากมาตรการ “Seal Stop Safe”
6. ปัญหาด้านการท่องเที่ยว ได้มีการสั่งการให้ทางด้านกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเร่งดำเนินการปรับมาตรการ กระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้เน้นย้ำในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่วถึงปัญหาค่าแรงขั้นต่ำ ระบุว่าได้มีการสั่งการให้กระทรวงแรงงาน เร่งนำมาตรการมาตรการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยจะมีการพิจารณาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทันต่อการขึ้นค่าแรงในช่วงเดือนกรกฎาคม 2568
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
