เตือนภัย! ‘Deepfakes’ ระบาดหนัก ตัดต่อรูปเปลือยผู้หญิงนับแสนกระจายว่อนทั่วโลก
TNN ช่อง16
22 ตุลาคม 2563 ( 14:07 )
565
คุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการถ่ายรูปตัวเองสวย ๆ แล้วโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียหรือเปล่า? ลองเช็คดูสิว่ารูปที่คุณโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียนั้นตั้งค่าไว้เป็นสาธารณะหรือไม่ มีแค่คุณกับเพื่อน ๆ ที่จะเข้าถึงรูปได้จริงหรือ? เพราะจากรายงานข่าวของทาง BBC พบว่ามีรูปตัดต่อเปลือยของผู้หญิงมากกว่า 100,000 รูปแชร์กระจายทั่วโลกออนไลน์ โดยส่วนมากสร้างจากรูปบนโซเชียลมีเดียของเจ้าตัวเอง
ที่มาของภาพ https://lh3.googleusercontent.com/bCUbvQ-nRjb1dZVTR596yBZ9SIt2-PNocoXx38omWn__mxBoXnYM3jytnSMg2q3kBzfJVg=s128
ผู้ร้ายมักจะเลือกรูปบนโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็ใช้เทคโนโลยีเอไอ (AI: Artificial Intelligence) ในการลบเสื้อผ้าของเหยื่อออกแล้วแชร์รูปไปตามที่ต่าง ๆ รวมถึงที่ระบาดหนักในแอปพลิเคชันแชต Telegram ที่สำคัญคือจากข้อมูลสำรวจพบว่า มีเหยื่อที่เป็นผู้หญิงมากกว่า 104,852 คนที่โดนตัดต่อรูปเปลือยและแชร์สาธารณะบนโลกออนไลน์ และที่สำคัญคือบางส่วนในนั้นเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ที่มาของภาพ https://images.unsplash.com/photo-1516585142943-4341daf22d5f?ixlib=rb-1.2.1&ixid=eyJhcHBfaWQiOjEyMDd9&auto=format&fit=crop&w=750&q=80
โดยเทคโนโลยีที่ใช้คือ “Deepfakes bot” ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างภาพและวิดีโอเสมือนจริงโดยอิงจากรูปต้นแบบ นอกจากนี้มันยังถูกใช้สร้างวิดีโอโป๊ของบรรดาดาราและเซเลบริตี้ทั้งหลายอีกด้วย
ทีมข่าวของ BBC ได้ทดลองส่งรูปของอาสาสมัครเข้าไปในห้องแชตลับห้องหนึ่งใน Telegram ในห้องนี้ผู้ใช้งานสามารถส่งรูปของผู้หญิงคนใดก็ได้ไปให้บอต แล้วมันจะทำการลบเสื้อผ้าของผู้หญิงเหล่านั้นออกไปในเวลาแค่ไม่กี่นาที พวกเขาพบว่ารูปที่ได้นั้นไม่ได้มีความสมจริงซะทีเดียว โดยหนึ่งในรูปที่ได้มาเป็นภาพของผู้หญิงที่มีสะดืออยู่บนตำแหน่งกระบังลมแทน
ที่มาของภาพ
https://ichef.bbci.co.uk/news/800/cpsprodpb/131C4/production/_114967287_nudebot_illustrations.jpg
เมื่อสอบถามไปยังผู้ดูแลห้องแชตนี้ ซึ่งเปิดเผยตัวเองว่าชื่อ “P” เขาแสดงความไม่แยแสต่อปัญหานี้แต่อย่างใดโดยบอกว่ามันก็แค่ทำไว้สนุก ๆ
“เราไม่สนใจหรอก นี่มันก็แค่เรื่องสนุก ๆ เรื่องหนึ่งที่ไม่ได้รุนแรงอะไรเลย ไม่มีใครเอารูปพวกนี้ไปแบล็กเมล์หรอก ในเมื่อมันก็ไม่สมจริงซะขนาดนั้น” เขายังกล่าวอีกว่าถ้าเห็นรูปที่เป็นผู้เยาว์เมื่อไหร่ ทีมงานก็จะบล็อกผู้ใช้งานคนนั้นให้ แต่เรื่องว่าใครจะเอารูปไปแชร์ต่อหรือทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเขา นอกจากนี้ยังได้อ้างต่ออีกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องรุนแรง
“บนโลกนี้มีทั้งสงคราม โรคระบาด เรื่องแย่ ๆ อื่น ๆ อีกตั้งเยอะที่อันตรายกว่า” และยังอ้างว่าอีกไม่นานก็จะลบรูปทั้งหมดทิ้ง
เมื่อทีมงานสอบถามไปยัง Telegram ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด
ที่มาของภาพ https://images.unsplash.com/photo-1592772874383-d08932d29db7?ixlib=rb-1.2.1&ixid=eyJhcHBfaWQiOjEyMDd9&auto=format&fit=crop&w=699&q=80
สิ่งที่ทำให้การตัดต่อรูปเหล่านี้ยังคงแพร่กระจายไปทั่ว อาจจะเป็นเพราะกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เข้มงวดพอที่จะปิดช่องโหว่ต่าง ๆ ให้คนร้ายทำผิดกฏหมายได้ Giorgio Patrini ประธานฝ่ายบริหารของบริษัท Sensity ผู้ให้ข้อมูลในครั้งนี้ ยังได้กล่าวว่า “เว็บไซต์และแอปพลิเคชันเหล่านี้ไม่ได้หลบซ่อนหรือทำงานใต้ดินเลย เพราะจริง ๆ แล้วกฎหมายยังไม่ถือว่าพวกนี้ทำผิดซะทีเดียว”
นอกจากประเด็นเรื่องช่องโหว่ทางกฏหมายแล้ว Nina Schick ผู้เขียนหนังสือ “Deep Fakes and the Infocalypse” ยังได้เสริมว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกฎหมายกำลัง “เล่นไล่จับ” อยู่กับความเร็วของเทคโนโลยีที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ สังคมกำลังเปลี่ยนแปลงเร็วเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และพวกเราในสังคมเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะควบคุมสิ่งนี้อย่างไร
ในขณะนี้ก็มีบางประเทศที่ได้ยกระดับกฏหมายที่จะช่วยป้องกันเหตุเหล่านี้ให้เข้มขึ้น เช่นในรัฐเวอร์จิเนียในอเมริกาที่ได้ออกกฎแบน Deepfake อย่างเด็ดขาด แต่ไม่ว่าอย่างไร เราในฐานะผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศใด วัยใด ก็ต้องพึงระวังตนเองไว้ด้วยว่า ทุกสิ่งที่เราโพสต์บนอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ได้เป็นความลับส่วนตัวเสมอไป ยังมีคนไม่ดีอีกมากที่คิดจะหาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของเราอยู่เสมอ ดังนั้นก่อนที่จะโพสต์รูปหรือข้อความส่วนตัวอะไร ให้พึงระลึกไว้เสมอว่าบนโลกอินเทอร์เน็ตนั้น “ไม่มีอะไรที่เป็นส่วนตัว 100%” เสมอ
ขอบคุณข้อมูลจาก
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline