สธ.เผยผลสอบ "นพ.ชาญชัย" ผอ.รพ.ขอนแก่น มีมูลเชื่อมโยงความผิดจริง
วันนี้ (9 มิ.ย.63) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งโต๊ะแถลงถึงกรณีกรณีคำสั่งย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข ทำไปตามขั้นตอน หลังจากมีผู้ร้องเรียนผ่านบัตรสนเท่ห์ ทางตนไม่ได้เป็นคนตั้งข้อกล่าวหาขึ้นมา แต่มาจาการที่มีบุคลากรคนเก่า ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการเกษียณ ของโรงพยาบาลขอนแก่น ร้องเรียนมาตนจึงรับไปพิจารณา และมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการยื่นให้ตรวจสอบมาตั้งแต่ก.ย. ปี 2562 ซึ่งใช้เวลาตรวจสอบกว่า 8 เดือน ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขณะนี้ นพ.ชาญชัย ยังไม่ได้ว่ามีความผิด ส่วนคำว่าฉ้อราษฎร์บังหลวง ถือว่าเป็นแค่ข้อกล่าวหา และการย้ายออกจากพื้นที่ไม่ได้ทำหลังมีการร้องเรียนผ่านบัตรสนเท่ห์ทันที แต่การสอบสวนนี้มานานกว่า 8 เดือนแล้ว ส่วนการย้ายออกพื้นที่นั้นตนไม่เคยระบุว่ามีการข่มขู่พยานเลย และในเอกสารก็ไม่เคยระบุ แต่ย้ายเพราะเนื่องจากมีมูล และต้องมีการสอบสวนเพิ่ม ไม่ใช่แค่บัตรสนเท่ห์ใบเดียวแล้วย้ายออก
ส่วนกรณี ที่ นพ.ชาญชัย ยืนอุทธรณ์นั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ขั้นตอนต่อจากนี้จะพิจารณาคำสั่งที่ตั้งโดยคณะกรรมการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงข้อคัดค้านต่างๆ โดยที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้เน้นย้ำไม่ให้มีปมทุจริตในหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงฯ และโรงพยาบาลในสังกัด
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้รับทราบเรื่องร้องเรียนมากมาย จึงได้มาตรการป้องกันการทุจริตในการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ โดยเสนอไปยัง ครม. เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2562 กระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือด่วนที่สุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 และได้แจ้งหนังสือเวียนไปยังสถานพยาบาลต่างๆ ถึง 3 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2561 จากนั้นก็มีหนังสือไปอีกวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2561 และวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 โดยกล่าวถึงเรื่องของการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา ในท่อน 1.3.1 ห้ามไม่ให้หน่วยงานที่ทำการจัดซื้อ ทำการหารายได้ในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทนทุกประเภทจากบริษัทยา เข้ากองทุนสวัสดิการสถานพยาบาล
ขณะที่ นายอภิชาติ รอดสม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ระบุว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนก็ได้ทำตามขั้นตอน ซึ่งการพิจารณาคณะกรรมการจะพิจารณาจากหลักฐานที่ได้รับการร้องเรียนทั้งหมดดูพยานบุคคล เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเรื่องที่ถูกกล่าวหา
เบื้องต้น จากการพิจารณาหลักฐาน พบว่า มีมูลจริง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต ยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้ง นพ. ชาญชัย เพราะมีมูล เชื่อได้ว่ามีการทุจริตโดยมีทั้งพยานบุคคลและหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึง นพ.ชาญชัย ซึ่งกฎหมาย ปปช. และ จาก กพ. กำหนดไว้ว่า หากมีการร้องเรียนผ่านบัตรสนเท่ห์ต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีมูลผิดวินัยหรือไม่
นายอภิชาติ ระบุเพิ่มเติมว่า กรณีการร้องเรียนผ่านบัตรสนเท่ห์เป็นไปตามระเบียบ ผู้ร้องเรียนไม่จำเป็นต้องเปิดเผยชื่อ แต่ไม่ได้แปลว่าผู้ถูกกล่าวหาจะผิดทันที อย่างไรก็ตามยังมีกระบวนการให้ความเป็นธรรมในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของผู้ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ หลักข้อกฎหมาย การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต้องเสนอปลัดกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาก่อนที่จะเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณรสุขพิจารณาในสำนวนสอบสวนอีกครั้งว่าผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ หากไม่ผิดสามารถสั่งยุติเรื่องได้ หากพบว่าผิดวินัยร้ายแรงก็ต้องว่าไปตามระเบียบราชการ แต่ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาสามารถยื่นอุทธรณ์ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดเบื้องหลัง ปมย้าย ผอ.รพ.ขอนแก่น
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online