รีเซต

อภ.ลุยซื้อ ATK เล่อปู๋ 8.5 ล้านชุด ด้านแพทย์ชนบทตั้ง 60 ทีมลุยตรวจคุณภาพ ส่วน ครม.เคาะกม.คุ้มครองด่านหน้า

อภ.ลุยซื้อ ATK เล่อปู๋ 8.5 ล้านชุด ด้านแพทย์ชนบทตั้ง 60 ทีมลุยตรวจคุณภาพ ส่วน ครม.เคาะกม.คุ้มครองด่านหน้า
มติชน
18 สิงหาคม 2564 ( 08:40 )
98

อภ.เมินเสียงค้าน ลุยซื้อ ATK เล่อปู๋ 8.5 ล้านชุด ด้านแพทย์ชนบทตั้ง 60 ทีมลุยตรวจคุณภาพ ขณะที่ครม.เคาะกม.คุ้มครองด่านหน้า

 

 

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด) ได้ให้อภ.ดำเนินการในขั้นตอนการลงนามสัญญาและส่งมอบเอทีเค ยี่ห้อเล่อปู๋ (LEPU)จำนวน 8.5 ล้านชุดต่อไป โดยจากการตรวจสอบในรายละเอียดแล้วเห็นว่าผลิตภัณฑ์ของ บริษัทออสแลนด์ แคปปิตอล จำกัด โดยผู้แทนจำหน่ายคือบริษัทเวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) ที่ชนะการเสนอราคา มีคุณภาพได้มาตรฐานตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดและได้มีหนังสือยืนยันคุณภาพอีกครั้งมาแล้ว ประกอบกับเห็นว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างขององค์การฯเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่างๆ และเป็นไปตามข้อกำหนดของ สปสช.และโรงพยาบาล (รพ.) ราชวิถี

 

 

ด้าน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จะนะ จ.สงขลา ในฐานะประธานชมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท ฉบับที่ 3 เรื่อง ชมรมแพทย์ชนบทและภาคประชาชนระดม 60 ทีม พร้อมตรวจสอบ ATK เจ้าปัญหา ทั้งนี้ สะท้อนชัดว่า การประมูลครั้งนี้ไม่ธรรมดา หากทาง สธ.จะอาศัยโอกาสที่มีการร้องเรียนถึงข้อกังขาในคุณภาพของเอทีเค ที่ผ่านการประมูล ก็สามารถทดสอบชุดตรวจเอทีเคเล่อปู๋ และยี่ห้ออื่นใดในสนามจริงได้ ใช้เวลาเพียง 3-4 วันก็ทราบผล ว่าชุดตรวจเอทีเคดังกล่าว มีประสิทธิภาพจริงดังที่ระบุไว้หรือไม่ แต่กลับไม่ทำ คงเพราะไม่มั่นใจในผลการทดสอบในสนามจริงเช่นกัน

 

 

“ชมรมแพทย์ชนบทร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนที่ได้ปฏิบัติการบุกกรุงทั้ง 3 ครั้ง ได้ออกแบบปฏิบัติการครั้งที่ 4 จะระดมทีมปฏิบัติการ 60 ทีมในทุกภาค เพื่อเข้าตรวจสอบชุดตรวจเอทีเคที่ได้รับการประมูลว่า มีคุณภาพทั้ง sensitivity และ specificity ดังที่กล่าวอ้างหรือไม่ มีผลบวกปลอม และผลลบปลอมในสัดส่วนที่เกินกว่าจะรับได้หรือไม่”นพ.สุภัทร กล่าว

 

 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบในหลักการร่างพ.ร.บ.โรคติดต่อ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ตามที่สธ.เสนอ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยเพิ่มหมวดเกี่ยวกับการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เพื่อแยกการจัดการโรคติดต่อในสถานการณ์ปกติออกจากโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่มีลักษณะของการเป็นโรคอุบัติใหม่และโรคติดต่ออุบัติซ้ำที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ เพื่อให้สาระของกฎหมายมีความสอดคล้องกับการดำเนินการด้านสาธารณสุขในภาวะฉุกเฉินโรคระบาดมากยิ่งขึ้น และต่อไปจะได้ไม่ต้องประกาศใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ทั้งนี้ครม.เห็นชอบให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาปรับปรุงในรายละเอียดต่อไป โดยหามาตรการคุ้มครองบุคลากรทางสาธารณสุขด่านหน้า และอาสาสมัครที่ทำงานไปตามปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง