ไทม์ไลน์วิกฤตหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว ภายใต้กฎอัยการศึก

ไทม์ไลน์เหตุการณ์ (เรียงตามลำดับเวลา)
28 สิงหาคม 2568 – ประกาศกฎอัยการศึก
กองทัพภาคที่ 1 ประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อควบคุมสถานการณ์ หลังเกิดความไม่สงบตามแนวชายแดน ภายใต้คำสั่งดังกล่าว มีข้อห้ามสำคัญ อาทิ ห้ามพกพาอาวุธ ห้ามปิดกั้นเส้นทางปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ห้ามถ่ายภาพฐานทหาร ห้ามทะเลาะวิวาท–ดื่มสุรา และห้ามนำเครื่องขยายเสียงโดยไม่รับอนุญาต
เมื่อพิจารณาจากอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่สามารถสกัดกั้น ป้องกัน และสลายเหตุรบกวนความสงบได้อย่างเร่งด่วน
29 สิงหาคม 2568 – ผู้ว่าฯ สระแก้วยื่นหนังสือถึงกัมพูชา
นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ทำหนังสือถึงนายอุม เรียเตรย ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ขอให้ย้ายราษฎรกัมพูชา 170 ครัวเรือน (บ้านจกเจย 135 ครัวเรือน และบ้านเปรยจัน 35 ครัวเรือน) ออกจากพื้นที่ บ้านหนองจาน–บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยย้ำว่าจุดดังกล่าวอยู่นอกเขตอ้างสิทธิ์ตาม MOU 2543 (MOU43) จึงเป็นการละเมิดอธิปไตยไทย
ต่อมา จังหวัดสระแก้วสื่อสารกับหน่วยปฏิบัติการแนวหน้าให้ถือปฏิบัติตามหนังสืออย่างเคร่งครัด
30–31 สิงหาคม 2568 – ติดป้ายแจ้งเตือน 3 ภาษา
เจ้าหน้าที่ไทยติดตั้งป้ายประกาศ 6 ป้าย (หมู่บ้านละ 3 ป้าย) ภาษาไทย–กัมพูชา–อังกฤษ ตามแนวลวดหนามและจุดเขตกั้น แจ้งให้ราษฎรกัมพูชาย้ายออกจากพื้นที่ หากเพิกเฉยจะเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ภายหลังจากนั้น มีการจัดกำลังรักษาความปลอดภัยและเฝ้าระวังต่อเนื่องเพื่อป้องกันเหตุเผชิญหน้า
2 กันยายน 2568 – บันเตียเมียนเจยโต้พร้อมชูกรอบเจรจา
ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ส่งหนังสือตอบผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอให้ไทย เคารพ MOU ปี 2000 และ ข้อตกลงหยุดยิง 28 ก.ค. 2568 พร้อมขอให้รอผลประชุม GBC/JBC ก่อนดำเนินการใด ๆ
ในช่วงเวลาเดียวกัน นายกฯ ฮุน มาเน็ต เผยแพร่สารผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงว่ากัมพูชาดำเนินการผ่านช่องทางการทูตและกลไกระหว่างประเทศเพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนตนเอง
3 กันยายน 2568 – ป้ายประกาศครบถ้วน ความตึงเครียดเพิ่ม
หลังป้ายแจ้งเตือนถูกติดตั้งครบ เครือข่ายประชาชนฝั่งกัมพูชาเริ่มนัดหมายรวมตัวบริเวณใกล้แนวชายแดน มีการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์และการถ่ายคลิปเผยแพร่ในโซเชียล
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยย้ำให้ใช้ความอดทนสูงสุด และหลีกเลี่ยงการปะทะ ขณะเดียวกันก็ยืนยันสิทธิการบังคับใช้กฎหมายในดินแดนตนเอง
4 กันยายน 2568 เวลา 09.30 น. – มวลชนประชิดแนวชายแดน
กลุ่มชาวกัมพูชาประมาณหลักสิบถึงร้อยคนรวมตัวใกล้ หลักเขตแดนที่ 46 บางส่วนถือท่อนไม้ยาวราว 2 เมตร ขณะทหารกัมพูชายืนคุมเชิงและบันทึกวิดีโอ เหตุการณ์สร้างแรงกดดันต่อกำลังพลไทยในพื้นที่
เมื่อพิจารณาจากภาพรวมภาคสนาม การควบคุมสถานการณ์ยังยึดหลักเลี่ยงปะทะและใช้มาตรการต่ำที่สุดเท่าที่จำเป็น
4 กันยายน 2568 เวลา 10.21 น. – แม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่
พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมผู้ว่าฯ สระแก้ว ตรวจพื้นที่บ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว พบปะชรบ.และประชาชน ย้ำแนวทางแก้ปัญหา “เดินตามกฎหมาย–ตามขั้นตอน” ควบคู่กับการสื่อสารทำความเข้าใจชุมชน ชี้ชัดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนไทย
4 กันยายน 2568 เวลา 13.30 น. – รายงานปิดถนนหมายเลข 58 ฝั่งกัมพูชา
กองกำลังบูรพารายงานข้อมูลเชิงยุทธการว่า ฝั่งกัมพูชามีการ ปิดถนนหมายเลข 58 และ เกณฑ์ประชาชนจากนอกพื้นที่ เข้าร่วมกดดันแนวชายแดนไทย การกระทำดังกล่าวถูกมองว่า ขัดต่อข้อตกลงหยุดยิง ที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกัน
ภายหลังจากนั้น หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 เพิ่มความเข้มการเฝ้าระวังและรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ไปยังศูนย์อำนวยการ
กรอบข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง (ย่อ)
หยุดยิง 28 ก.ค. 2568 ภายใต้การไกล่เกลี่ยของมาเลเซีย มีผลตั้งแต่เที่ยงคืน
- ประชุม GBC 7 ส.ค. 2568 ที่กัวลาลัมเปอร์ วาง แนวปฏิบัติ 13 ข้อ เพื่อลดแรงเสียดทานและตั้งคณะทำงานร่วม
- MOU 2543 (MOU43) ใช้เป็นกรอบเทคนิคด้านเขตแดนและกลไก JBC จัดการจุดเปราะบาง
ต่อมา ทั้งสองฝ่ายสื่อสารผ่านช่องทางการทูตควบคู่กับคำสั่งยุทธการแนวหน้า
ทิศทางสถานการณ์ (ณ ปัจจุบัน)
- ฝ่ายไทยยืนยันหลัก อธิปไตย–กฎหมาย–ความปลอดภัยประชาชน ดำเนินการตามกฎอัยการศึกและหนังสือทางการ
- ฝ่ายกัมพูชาผลักให้ รอผล GBC/JBC และสื่อสารกับประชาชนตนเองผ่านสารทางการ
จุดเปราะบางคือ การระดมมวลชน–การปิดถนนหมายเลข 58–การปะทะเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งอาจลุกลามได้หากไม่มีการแยกมวลชนและกำหนดเขตกันชนชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ช่องทางเจรจายังเปิดอยู่ และการลงพื้นที่ของแม่ทัพภาคที่ 1 ช่วยย้ำท่าที “เข้มตามกฎหมาย แต่ลดแรงปะทะ”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
