THL เลิกขุดบิทคอยน์เอง หันให้เช่าสถานที่-เครื่องแทน
บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THL ยกเลิกขุดบิทคอยน์เอง เปลี่ยนเป็นให้เช่าสถานที่ และให้เช่าเครื่องขุดเหรียญแทน แนวโน้มขุดยากขึ้น ผลตอบแทนลดลง
บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THL แจ้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อย (เหมืองขุดบิทคอยน์) ระบุว่าตามที่บริษัท คริปอินเวสท์ จำกัด ("CIV" ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทในสัดส่วนร้อยละ 90 ได้เข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดเหรียญบิทคอยน์ ตามที่อ้างถึง โดยปัจจุบันธุรกิจดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการและรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงเดือน กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา โดยบริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์ ทั้งด้านการรับรู้รายได้ปริมาณการผลิตเหรียญ ข้อมูลเครื่องขุดบิทคอยน์ (เครื่อง ASIC) ข่าวสารบทวิเคราะห์ แนวโน้มด้านราคาของ Bitcoin และวิเคราะห์ต้นทุนหลักซึ่งคือค่าไฟฟ้าที่ใช้สำหรับการดำเนินการของเครื่องขุดเหรียญ
บริษัทฯชี้แจงว่าตั้งแต่เดือน มกราคม 2566 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนรูปแบบการลงทุนจากเดิมซึ่งเป็นผู้ลงทุนในด้านโครงสร้างสถานที่ติดตั้งเครื่องขุดบิทคอยน์ และลงทุนในเครื่องขุดบิทคอยน์ และรับรู้รายได้โดยการผลิตเหรียญ เป็นการให้เช่าสถานที่ติดตั้งเครื่องขุดบิทคอยน์ โดยประกอบด้วยโครงสร้างอาคารที่บริษัทก่อสร้างและโครงสร้างสำหรับการวางเครื่องชุดบิทคอยน์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าเป็น นิติบุคคลจำนวน 1 ราย ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ และผู้บริหารของบริษัท โดยรับรู้รายได้เป็นค่าเช่าตามสัญญา ในเบื้องต้นผู้เช่าลงนามเช่าสถานที่ดังกล่าว 1 ปี
ในส่วนให้เช่าเครื่องขุดบิทคอยน์ บริษัทฯได้ทำสัญญาให้เช่าเครื่องขุดบิทคอยน์จำนวน 156 เครื่อง อายุสัญญาเช่า 1 ปี ให้แก่ นิติบุคคลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละนิติบุคคลกับผู้เช่าสถานที่ข้างตัน และไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ และผู้บริหารของบริษัท โดยได้เริ่มเช่าเครื่องขุดบิทคอยน์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา ค่าเช่าตามสัญญาจะคิดค่าเช่าเหมารายเดือน และอ้างอิงช่วงราคาของเหรียญบิทคอยน์ (มีราคาค่าเช่าพื้นฐานเป็นตัวตั้งต้น และปรับขึ้นลง ตามช่วงราคาของเหรียญบิทคอยน์ ณ สิ้นเดือน)
อนึ่ง ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบดังกล่าวบริษัทฯ ได้พิจารณาจากฐานข้อมูลต่างๆ และวิเคราะห์ถึงแนวโน้ม ในด้านค่าไฟฟ้า รวมไปถึงราคาเหรียญบิทคอยน์ โดยทีมงานที่ติดตามถึงสถานการณ์ของราคาเหรียญบิทคอยน์ และแนวโน้มในอนาคต แต่เนื่องจากจำนวนปริมาณเหรียญบิทคอยน์ที่คงเหลือมีจำกัด และระดับความยากของการขุดบิทคอยน์ที่จะเพิ่มขึ้นในทุกๆวินาที จึงพิจารณาเห็นถึงผลตอบแทนที่ลดลง
เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ที่บริษัทเข้าลงทุน บริษัทฯ ได้พิจารณาถึงปริมาณกำลังการขุดทั่วโลกสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงราคาเครื่องขุดบิทคอยน์ที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้แผนที่จะต้องขยายกำลังในการขุดบิทคอยน์ได้รับผลกระทบ
ในด้านต้นทุนการใช้ไฟฟ้าถึงแม้ว่าบริษัทฯ จะได้รับเงื่อนไขในราคาขายไฟฟ้าที่ดีจากนิคมราชบุรีนั้น จะทำให้ผลประกอบการของธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์นั้นยังคงมีผลประกอบการเป็นบวกในช่วง 1 ปีนี้ แต่เมื่อพิจารณารวมกับแนวโน้มความยากในการขุดเหรียญเมื่อเปรียบเทียบกับการเติบโตของราคาเหรียญแล้ว บริษัทฯเห็นว่าการเร่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบการลงทุนเป็นวิธีที่เหมาะสมมากที่สุด และได้รับผลประโยชน์สูงสุด