ส.อ.ท.จับตาคลายล็อกดันขายรถยนต์ฟื้น หลังก.ค.ดิ่ง ลูกค้าทิ้งใบจอง-เมินเข้าศูนย์

ส.อ.ท.จับตาคลายล็อกดันตลาดรถยนต์คึกคัก หลังก.ค.ดิ่งสุดในรอบปี ลูกค้าทิ้งใบจอง-ไม่เข้าศูนย์บำรุงรักษา

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์รถยนต์ของไทยหลังรัฐบาลมีมาตรการคลายล็อกบางกิจการ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ว่า เป็นข่าวดี เพราะจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว แต่ก็ต้องจับตาไปอีก 1-2เดือนว่าจะเกิดการแพร่ระบาดรุนแรงอีกหรือไม่ หรือสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ขณะเดียวกันต้องจับตาปริมาณวัคซีนที่เข้ามาด้วยว่าจะฉีดได้ครอบคลุมรับกิจกรรมเศรษฐกิจที่คลายล็อกหรือไม่ อย่างไรในส่วนของตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะยอดขายในประเทศ บรรยากาศตามโชว์รูมรถยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะติดตามอย่างใกล้ชิดว่าบรรยากาศการชมรถ จอง แต่ละรุ่นเป็นอย่างไรในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ เพราะหลังจากรัฐบาลสั่งล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ได้กระทบกับยอดขายรถยนต์ในประเทศอย่างหนัก โดยพบว่าเดือนกรกฎาคมยอดขายเหลือเพียง 5.2 หมื่นคัน ต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากประชาชนกังวลไม่กล้าซื้อรถยนต์ ไม่กล้าเดินทางเข้าโชว์รูม

“เดือนกรกฎาคม ถือเป็นเดือนที่หนักสุดของยอดขายรถยนต์ปีนี้ เพราะต่ำสุดในรอบปีช่วง 7 เดือน(มกราคม-กรกฎาคม2564) และต่ำกว่าเดือนมิถุนายน 8% โดยพบว่าประชาชนทิ้งใบจองจำนวนมาก เพราะไม่มั่นใจสถานการณ์ รายได้ในอนาคต ความเสี่ยงถูกยึดรถ ยิ่งไปกว่านั้นตามศูนย์ซ่อมบำรุงก็ไม่มีประชาชนนำรถไปใช้บริการแม้จะครบกำหนด แม้ทางศูนย์จะติดต่อให้ลูกค้าเข้าไป เพราะไม่มั่นใจกลัวโควิด-19 เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาบรรยากาศจึงเงียบทั้งการขายรถยนต์และการดูแลรักษารถยนต์ของประชาชน”นายสุรพงษ์กล่าว