KAMART กสิกรไทยหั่นกำไรปี 67-69 ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 14.67 บาท

#KAMART #ทันหุ้น-บล.กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART หลังเข้าร่วมงาน Opportunity Day โดยมองเป็นกลาง แม้ว่าผู้บริหารจะมีการคาดการณ์ทางการเงินเชิงรุกในปี 2567-2568 ก็ตาม  ประเด็นสำคัญ ได้แก่ บริษัทเผยประมาณการรายได้ปี 2567-2568 ที่ 3.25 พันล้านบาทและ 4 พันล้านบาท เติบโต 34% และ 23% ตามลำดับ พร้อมตั้งเป้ากำไรสุทธิที่ 900 ล้านบาท และ 1.1 พันล้านบาท สะท้อนอัตรากำไรสุทธิที่ 27.7% และ 27.5% ซึ่งผู้บริหารระบุว่าการคาดการณ์ไม่ได้รวมการเติบโตของธุรกิจภายนอกจากข้อตกลง M&A ในอนาคต 

ฝ่ายวิจัยกสิกรไทย คงมุมมองที่เป็นกลางต่อเป้าหมายเชิงรุกของบริษัท เนื่องจากเชื่อว่าโมเมนตัมของรายได้ที่เติบโตช้าลงในไตรมาส 4/66 แม้ว่าจะเป็นช่วงไฮซีซั่นก็ตาม เป็นสัญญาณของการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องสำอางของไทยทั้งจากแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าค่าใช้จ่าย SG&A ในระดับสูงของบริษัท จะยังคงมีอยู่ต่อไป จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะต้องใช้ต่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ ดังนั้นจึงคงมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยมที่ว่ากำไรไตรมาส 1/67 มีแนวโน้มลดลง จากไตรมาสก่อน จากการเติบโตของรายได้ที่ลดลงในช่วงโลว์ซีซั่น และ SG&A ในระดับสูง

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยกสิกรไทยระบุอีกว่า เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้น หรือ GPM ที่ต่ำกว่าคาด และค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/66 จึงได้ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2567-2569 ลง 10.5%, 9.6%  และ 11.8% ประการแรกได้ลดคาการณ์ GPM ปี 2567-2569 ลง 50bps/50bps/10bps เป็น 53%/53.5%/53.8% เพื่อสะท้อนส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นของแบรนด์ที่ร่วมือกัน ซึ่งมีอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาด ประการที่สอง ได้ปรับประมาณการ SG&A ต่อรายได้ปี 2567-2569 ขึ้น160bps/240bps/350bps เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำถือหุ้น KAMART โดยได้ปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ลงมาอยู่ที่ 14.67 บาทจากเดิมที่ 16.39 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรดังกล่าว