ร้องตรวจสอบโครงการ "ตุ๊กตุ๊กเอื้ออาทร" ทำคนขับเป็นหนี้ล้น

วันนี้ (15 ก.ย.63) น.ส.นฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และตัวแทนกลุ่มผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กรับจ้าง เดินทางมายังกรมการขนส่งทางบก เพื่อสอบถามความจริงในโครงการสามล้อเอื้ออาทร หลังจากที่กลุ่มผู้ขับขี่รถสามล้อรับจ้างในโครงการสามล้ออาทรพบความไม่โปร่งใสของโครงการ รวมไปถึงบางส่วนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม

หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาผู้เสียหายไม่เคยรู้มาก่อน ว่าการทำสัญญากับทางสหกรณ์และธนาคาร จะทำให้ผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กต้องเป็นหนี้สูงถึง 400,000 บาท เพราะถือเป็นจำนวนหนี้ที่สูงกว่าราคารถตุ๊กตุ๊กที่มีการซื้อกับสหกรณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ราคาส่วนเกินของรถที่ซื้อหลักแสนบาท คนขับก็ไม่เคยได้รับเงินดังกล่าวแต่อย่างใด แต่กลับต้องมาเป็นหนี้สินหลายแสนบาท รวมไปถึงถูกฟ้องร้องจนเป็นคดีความอยู่ในปัจจุบัน

สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นการขยายระยะเวลาเพิ่มเติมในปี 2558 ซึ่งเป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีรถสามล้อเป็นของตนเอง เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพขับรถรับจ้างได้อย่างสุจริต โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก จัดโครงการดังกล่าว ทางสหกรณ์บริการจักรเพชร ได้มาเสนอขายรถสามล้อในราคา 3 แสนบาท ซึ่งคนขับรถสามล้อจึงจองรถและให้สหกรณ์พาไปกู้เงินกับแบงก์ออมสิน สาขาเยาวราช และพารากอน จำนวน 4-5 แสนบาท โอนเข้าบัญชีของสหกรณ์ และคนขับรถสามล้อต้องทำสัญญากู้เงินจากสหกรณ์อีก 330,000 - 380,000 บาท ทำให้แต่ละรายเป็นหนี้กว่า 7 แสนบาท จากการทำสัญญาซ้อน 2 ครั้ง จนทำให้คนขับรถสามล้อถูกฟ้องร้อง

นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของรถสามล้อเครื่องที่ได้รับมาไม่ได้มาตรฐาน โดยเป็นเครื่องยนต์ 2 สูบ จากประเทศจีน ซึ่งไม่เหมือนที่โฆษณาระบุไว้ ว่าเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ ยี่ห้อไดฮัทสุ ของประเทศญี่ปุ่น และกรณีรถที่ได้รับมาไม่ได้มาตรฐาน แตกต่างจากโฆษณาไว้ ซึ่งบางคันต้องซ่อมตั้งแต่วันแรกที่ได้รับ

ปัจจุบันมีผู้ถูกฟ้องจากสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เกินราคาสินค้า จนทำให้มีผู้เสียหายถูกฟ้องแล้ว 14 ราย เป็นหนี้หลัก 6 แสนบาทต่อราย