'ม.หอการค้าฯ'ชี้ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2
‘ม.หอการค้าฯ’ ชี้ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ด้านปชช.หวังรัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่ม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า จากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนมิถุนายน 2563 จากการสำรวจประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,241 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมแทบทุกรายการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 49.2 จากเดือน พฤษภาคมอยู่ที่ 48.2 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ที่ 33.2 เพิ่มจากเดือนพฤษภาคมที่ 32.2
ขณะที่ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคต อยู่ที่ 56.8 เพิ่มจากเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 55.7 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 41.4 เพิ่มจากเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 40.2 และความเชื่อมั่นโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 47.6 จากเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 46.6
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ดำเนินการผ่อนคลายให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้ ในระยะที่ 1-4 ในเดือนพฤาภาคมและมิถุนายนนี้ ประกอบกับการที่รัฐบาลออกมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งมาตรการด้านการเงินและการคลัง เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการโดยทั่วไป อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความกังวลสูงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการว่างงานในอนาคตที่เกิดจากผลกระทบเชิงลบจากโควิด-19
“การที่ดัชนีความเชื่อมั่นยังทรงตัวในระดับต่ำที่สุดในรอบ 21 ปี 9 เดือน ทำให้คาดว่าผู้บริโภคยังชะลอการใช้จ่ายไปอย่างน้อย 3-6 เดือน นับจากนี้จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลายตัวลงและมีการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจอย่างกว้างขวาง รวมถึงคาดหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค” นายธนวรรธน์กล่าว