"เปิดเทอม" เงินสะพัด 6.2 หมื่นล้าน พุ่งสูงสุดรอบ 15 ปี

"ม.หอการค้าไทย" คาดเปิดเทอม 2568 เงินสะพัด 6.2 หมื่นล้านทุบสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี
ผู้ปกครองเงินลำบากหมุนเงินโรงรับจำนำ-กู้เงิน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดเผย "ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายและผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม ปีการศึกษา 2568" จำนวน 1,250 ตัวอย่าง ระหว่าง 1-6 พฤษภาคม 2568 ว่า คาดว่าจะมีเงินสะพัดหรือมูลค่าการใช้จ่ายรวม 62,615 ล้านบาท เติบโตกว่าปีก่อน 3.80% มูลค่าสูงสุดตั้งแต่ทำการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2553 โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยโดยรวม 26,039 บาท/เทอม ซึ่งหากเรียนในโรงเรียนรัฐบาลอยู่ที่ 15,771 บาท/เทอม หากเป็นภาคพิเศษ อยู่ที่ 41,723 บาทต่อเทอม ส่วนโรงเรียนเอกชน ภาคปกติ 35,627 บาท ภาค 2 ภาษา 59,157 บาท
นายธนวรรธน์ ระบุว่ายอดการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมปีการศึกษา 2568 ถือว่ามี "ยอดใช้จ่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์" นับตั้งแต่ที่เริ่มทำการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2553 ส่วนหนึ่งอาจตีความได้ว่า ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาปรับตัวสูงขึ้น หรือผู้ปกครองให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาของบุตรหลานมากขึ้น อย่างไรก็ดีการผลสำรวจดังกล่าว ไม่พบว่าผู้ปกครองลดหรือประหยัดการใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน ส่วนใหญ่ตอบว่าค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อน และผู้ปกครองไม่ได้ขาดแคลนเงินมากนัก ภาพรวมการใช้จ่ายด้านการศึกษายังไม่ได้หยุดชะงัก
ด้านนางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์ฯ ระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถามโดยส่วนใหญ่ 95% ระบุว่าต้องเตรียมจ่ายค่าบำรุงโรงเรียน (แป๊ะเจี๊ยะกรณีย้ายโรงเรียน) เพิ่มขึ้น หรือเฉลี่ยใช้เงิน 8,786 บาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านค่าเทอม ค่าบำรุงโรงเรียน(ที่เดิม) ค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าบริหารจัดการพิเศษ เช่น ค่าประกันชีวิต ยังไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อน แต่ชุดนักเรียน-รองเท้าสูงขึ้น
ทั้งนี้ 34.7% ระบุมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากราคาสินค้าแพงขึ้น ส่วนที่ใช้จ่ายได้เท่าเดิมถึงลดลง 65.3% มาจากสาเหตุราคาของแพงทำให้ต้องประหยัด ไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจไทย ขาดสภาพคล่อง และมีภาระหนี้มาก 56.6%
โดยผู้ปกครองส่วนใหญ่เกือบ 67% ระบุว่า มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายของบุตรหลายในช่วงเปิดเทอม ขณะที่อีกประมาณ 33% ระบุว่า มีไม่เพียงพอ ซึ่งในส่วนของผู้ปกครองที่ระบุว่ามีเงินไม่เพียงพอนั้น ใช้แนวทางการแก้ปัญหาโดยวิธีการนำทรัพย์สินไปจำนำมากที่สุด รองลงมาคือ การกู้เงินในระบบ ตามด้วยการผ่อนชำระค่าเทอมเป็นงวด, การเบิกเงินสดจากบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด, ยืมญาติพี่น้อง, หารายได้เสริม, กู้เงินนอกระบบ และทางเลือกสุดท้าย คือให้บุตรหลานพักการเรียนไว้ก่อน
ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายโดยรวมสำหรับช่วงเปิดเทอมปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 26,039 บาท โดยผู้ปกครองส่วนใหญ่ 45.6% มองว่า ค่าใช้จ่ายโดยรวมในช่วงเปิดเทอมปี 2568 เท่ากับเปิดเทอมปี 2567 รองลงมา ผู้ปกครอง 30.2% มองว่า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยผู้ปกครอง 4.5% มองว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ผู้ปกครอง 19.7% ระบุว่าค่าใช้จ่ายปีนี้น้อยลง
และเมื่อถามว่า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียนของบุตรหลาย มีส่วนทำให้ต้องก่อหนี้เพิ่มหรือไม่นั้น พบว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่ 41% ตอบว่าไม่มีส่วนให้ก่อหนี้เพิ่ม รองลงมา ผู้ปกครอง 38% ตอบว่ามีการก่อหนี้เพิ่ม แต่ไม่ถึง 10% ของยอดหนี้ทั้งหมด โดยมีผู้ปกครองเพียง 0.4% เท่านั้น ที่ตอบว่ามีการก่อหนี้เพิ่มมากว่า 60% ของยอดหนี้ทั้งหมด