GRAMMYอีเว้นต์ดันพอร์ตโต หนุนงบครึ่งปีหลังโดดเด่น

#GRAMMY #ทันหุ้น – GRAMMY รับอานิสงส์ “หลานม่า” และคอนเสิร์ตจากทั้งศิลปินอันดับต้นของค่าย และผนึกกำลังกับ RS หนุนรายได้โค้งสองเติบโตต่อเนื่อง มั่นใจผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังของปี 2567 เติบโตโดดเด่น หนุนจากงานจัดอีเวนต์ ธุรกิจบริหารศิลปิน-ลิขสิทธิ์ที่จะเร่งตัวขึ้นช่วงโค้งสุดท้ายของปี พร้อมจัดงบ 960 ล้านบาทลงทุนเพิ่มใน ONEE หลังเห็นแนวทางเติบโตร่วมกัน แย้มเร่งแก้ฟรีโฟลตเปิดทางรายย่อยเข้าลงทุนเพิ่ม

นางสาวจรรย์จิรา พนิตพล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2567 (QoQ) ที่ผ่านมาและเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) หนุนจากกลุ่มธุรกิจเพลง (Music) และธุรกิจโชว์บิซ ที่ยังคงมีคอนเสิร์ตของศิลปินชั้นนำได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท ฮับ จำกัด (GHT) ก็มีภาพยนตร์ “หลานม่า” เข้าฉายซึ่ง ณ ปัจจุบันทำรายได้แล้วกว่า 300 ล้านบาท รวมถึงยังอยู่ระหว่างเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อีกกว่า 8 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงนำภาพยนตร์แอนิเมชั่น “นักรบมนตรา” เข้าฉายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ Netflix ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้กลุ่มธุรกิจบริหารศิลปิน และธุรกิจจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์อย่างมีนัยสำคัญ

ธุรกิจหนุนพอร์ต

ด้านธุรกิจดิจิทัลมิวสิกก็สามารถนำคอนเทนต์เพลงเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น YouTube, Facebook, Spotify, JOOX, Apple Music, iTunes, และ Tencent Music  ฯลฯ ได้อย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้เติบโตอย่างมั่นคง

สำหรับธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง ยังคงคัดสรรสินค้าและบริการที่มีคุณภาพเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเฮาส์แบรนด์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบันอีกด้วย

พร้อมกันนี้ได้ประเมินภาพรวมธุรกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2567 (2H/67) ว่าจะมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปี (1H/67) หนุนจากความสามารถในการจัดอีเวนต์ (Event), คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ทั้งในฮอลล์-กลางแจ้งได้หลายคอนเสิร์ต เบื้องต้นยังคงมั่นใจว่ารายได้รวมทั้งปี 2567 จะสามารถเติบโตต่อเนื่องได้จากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

“ปกติไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด เนื่องจากจะมีกิจกรรม มีการจัดอีเวนต์ต่างๆ ต่อเนื่องเกือบทั้งไตรมาส จะเป็นปัจจัยหนุนรายได้กลุ่มธุรกิจโชว์บิซ และบริหารศิลปินให้เร่งตัวอย่างมีนัย อีกทั้งยังมีรายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เข้ามาหนุนอีกด้วย”

เร่งแก้ฟรีโฟลต

ส่วนกรณีที่ปริมาณการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ที่ซื้อ-ขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ ปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความสนใจของนักลงทุนรายย่อยนั้น ปัจจุบันผู้บริหารอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ปัญหาสภาพคล่องดังกล่าว มุ่งกระจายหุ้นให้เพียงพอต่อความสนใจเข้าลงทุนของนักลงทุนทั่วไป

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นบริษัทวันทอง โฮลดิ้งส์ จำกัดในสัดส่วน 100% ด้วยวงเงินลงทุน 960 ล้านบาท โดย “วันทอง โฮลดิ้งส์” มีสินทรัพย์หลักคือหุ้นบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE จำนวน 238.15 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% ของจํานวนหุ้นที่ออกและจําหน่ายได้แล้วทั้งหมดใน ONEE ส่งผลให้บริษัทถือหุ้น ONEE สุทธิทั้งสิ้น 37.20%

“บริษัทเห็นถึงการเติบโตร่วมกันในระยะยาว เนื่องจากปัจจุบัน CHANGE 2561 (บ.ย่อย ONEE) หันไป Content และหารายได้เอง ซึ่งจะทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงขึ้น ขณะที่ตัว ONEE เองก็ได้จับมือ Partner ผู้ผลิตเกมจากเกาหลี (SHIN-A) และจากไทย (URNIQUE) ร่วมพัฒนาเกมมือถือ ตั้งเป้าเปิดตัวเกมในปีหน้า โดย ONEE จะนำศิลปินดังในค่ายเข้าไปอยู่ในเกมด้วยจึงพิจารณาเข้าลงทุนในธุรกรรมดังกล่าว ทั้งนี้บริษัทจะได้รับผลตอบแทนตามสัดส่วนเงินลงทุนใน ONEE”