บสย. เผย ผลค้ำประกันทะลุ 2 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 30 ปี จ้างงานได้ 2 ล้านคน
บสย. เผย ผลค้ำประกันทะลุ 2 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 30 ปี สร้างการจ้างงานได้ 2 ล้านคน ไตรมาสสุดท้าย ลุยค้ำต่อรับเปิดประเทศ
นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อ ระหว่าง วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 ตุลาคม 2564 ได้อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อทุกโครงการ รวมวงเงินกว่า 2 แสนล้านบาท และอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 187,446 ฉบับ สร้างสถิติค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ก่อตั้ง บสย. รอบ 30 ปี ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 215,237 ล้านบาท คิดเป็น 1.07 เท่า สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ 4.13 เท่าของวงเงินค้ำประกัน คิดเป็นมูลค่า 833,333 ล้านบาท ก่อเกิดการจ้างงาน จำนวน 2,050,661 ราย แบ่งเป็น การรักษาการจ้างงาน จำนวน 1,667,657 ราย และการจ้างงานใหม่ จำนวน 383,004 ราย โดยมีภาระค้ำประกันสินเชื่อ ณ ไตรมาส 3/2564 จำนวน 604,076 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของยอดคงค้างสินเชื่อเอสเอ็มอี ในระบบ คิดเป็น 10% ของ มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของธุรกิจเอสเอ็มอี
โครงการค้ำประกันสินเชื่อที่ บสย. อนุมัติวงเงินค้ำ ได้แก่ 1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ ภายใต้ พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 1-2 วงเงิน 103,500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 52% และ อนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 33,803 ฉบับ 2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. เอสเอ็มอี สร้างชาติ (PGS 9) วงเงิน 71,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 35% และ อนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 16,878 ฉบับ 3.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ ไมโคร 4 วงเงิน 15,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7% และ อนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 130,699 ฉบับ 4.โครงการค้ำประกันสินเชื่ออื่นๆ วงเงิน 11,100 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6% และ อนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 6,066 ฉบับ
บสย. เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้ร่วมงานในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 1-2 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง และ บสย. เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจ 3 กลุ่มได้แก่ 1. ผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร 2.ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี 3. กลุ่ม คอร์ปอเรท มีวงเงินรวมทั้งโครงการ 250,000 ล้านบาท เฟส 1 วงเงิน 100,000 ล้านบาท ค้ำประกันเต็มจำนวนแล้ว และได้เปิดเฟส 2 วงเงิน 100,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 9 ตุลาคม 2566
ทั้งนี้ในแผนการดำเนินงานไตรมาสสุดท้าย บสย. พร้อมอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อเติมทุนให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีนำไปใช้ในการปรับปรุงและฟื้นกิจการ ตามแผนเปิดประเทศ มั่นใจว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟู ระยะ 2 วงเงิน 100,000 ล้านบาท จะช่วยผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ซึ่งได้ปรับปรุงเกณฑ์การค้ำประกันสินเชื่อให้ดียิ่งขึ้น เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ กลุ่มไมโคร และ เอสเอ็มอีกลุ่มเปราะบาง ช่วยลดภาระต้นทุนค่าธรรมเนียม และเพิ่มโอกาสได้วงเงินสินเชื่อเพิ่ม ได้แก่ 1. ปรับลดค่าธรรมเนียมค้ำประกันทันที ตั้งแต่ปีแรก สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และ กลุ่ม เอสเอ็มอี เปราะบาง จ่ายเริ่มต้นเพียง 1% ต่อปีต่อเนื่อง 4 ปีแรก รวม 13% ตลอดระยะเวลา 10 ปี 2. เพิ่มโอกาสผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และกลุ่ม เอสเอ็มอีเปราะบาง ได้รับวงเงินสินเชื่อ เพิ่มขึ้นสูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย จากเดิม 15 ล้านบาทต่อราย 3. เพิ่มความมั่นใจให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อโดย บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยเต็ม 100% ใน กลุ่มไมโคร จากเดิม 90% และ กลุ่ม เอสเอ็มอีเปราะบาง จากเดิม 80%
นอกจากนี้ โครงการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟู เฟส 2 มีการปรับเพิ่มวงเงินค้ำประกันผู้ประกอบการ ทั้งที่เป็นลูกค้าเดิมที่มีวงเงินกู้อยู่แล้ว และลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีวงเงิน ดังนี้ 1.ผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร หรือผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี รายย่อย กรณีเป็นลูกค้าสถาบันการเงินที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมไม่เกิน 5 ล้านบาท จะได้วงเงินไม่เกิน 30% ของสินเชื่อเดิมหรือสูงถึง 1.5 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงิน จะได้วงเงินสูงถึง 1.5 ล้านบาท 2.ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ที่เป็นลูกค้าสถาบันการเงินที่มีวงเงินสินเชื่อเดิม ระหว่าง 5-50 ล้านบาท จะได้วงเงินไม่เกิน 30% ของสินเชื่อเดิม หรือระหว่าง 1.5-15 ล้านบาท กรณีถ้าไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงิน จะได้วงเงิน 1.5-15 ล้านบาท 3.กลุ่มคอร์ปอเรท กรณีเป็นลูกค้าสถาบันการเงินที่มีวงเงินสินเชื่อเดิม ระหว่าง 50 – 500 ล้านบาท จะได้วงเงินไม่เกิน 30% ของสินเชื่อเดิม หรือระหว่าง 15 -150 ล้านบาท กรณีผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงิน จะได้วงเงิน 15-50 ล้านบาท ทั้งนี้วงเงินผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และกลุ่มผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีอาจจะได้รับวงเงินสูงถึง 50 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับศักยภาพของผู้ประกอบการและการพิจารณาของสถาบันการเงินและธนาคารแห่งประเทศไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับคำปรึกษาฟรี ได้ที่ บสย. คอลเซ็นเตอร์ และศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน เอสเอ็มอี (บสย. F.A. Center) โทร. 0-2890-9999 หรือที่ สำนักงานเขต บสย. ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ