ทริสเรทติ้ง หวังไทยโดนภาษีต่ำกว่าคู่แข่ง

ดร.ศิริ การเจริญดี ประธานคณะกรรมการ บริษัททริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS Rating) กล่าวว่า ปัจจุบันการค้าของโลกไม่ได้เป็นไปตามพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เกิดจากการต่อรองเจรจากับประเทศมหาอำนาจ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของตนเองซึ่งนำมาสู่สงครามทางค้าอย่างเช่นที่เห็นในปัจจุบัน
สำหรับประเทศไทยเป็นระบบเศรษฐกิจเปิด มีการพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักสูงอันดับต้นๆ ของโลก สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของระบบการค้าโลก จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง รวมถึงการประกาศภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ด้วย ในวันที่ 1 สืงกาคมนี้ว่าไทยจะยังถูกเก็บภาษีในอัตราเดิมคือร้อยละ 36 หรือไม่เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเจริญเติบโตและเสถียรภาพเศรษฐกิจ สร้างความเสียหายให้ขีดความสามารถแข่งขันของไทย
ดังนั้นไทยจึงต้องเร่งการปรับตัวในช่วงที่เกิดสงครามการค้า เพราะทุกวันนี้คนความกังวลว่าผลกระทบจากเรื่องนี้ อาจทำให้เศรษฐกิจถดถอยรุนแรง หากไม่มีการแก้ไข
นายศักดิ์ดา พงศ์เจริญยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS Rating) กล่าวว่า ในปีนี้มองการถูดลดการจัดอันดับของไทยจะดีขึ้น จากปีที่แล้วมีบริษัทถูกดาวน์เกรดเครดิตเรตติ้ง 46 ราย แต่ปีนี้จะเหลือแค่ 21 ราย โดยมีปัจจัยสนับสุนจากมาตรการรัฐที่ออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนการเจรจา ระหว่างสหรัฐกับไทย จะเป็นอย่างไรนั้นยังต้องติดตามในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 แต่ก็หวังว่าต่ำกว่าประเทศในอาเซียน
ขณะที่ดร.วิรัช ฉัตรดรงค์ รองประธานสายงานเศรษฐกิจและวิชาการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในส่วนภาคเอกชนก็หวังให้ไทย ถูกจัดเก็บภาษีต่ำกว่าที่สหรัฐฯ ประกาศไว้ในอัตราร้อยละ 36 ซึ่งตอนนี้ไทยกำลังเจรจากับสหรัฐฯ ก่อนถึงวันที่ 1 ส.ค.2568
อย่างไรก็ตามมองว่าไทยไม่น่าจะเปิดตลาดนำเข้าเสรี 0% เหมือนเวียดนาม เพราะหลายอุตสาหกรรมจะกระทบ เช่น เหล็ก ไฟฟ้า รถยนต์ เป็นต้น ดังนั้นในช่วงนี้เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคตหากไทยเจรจาสหรัฐฯ ไม่สำเร็จและถูกเก็ยภาษีนำเข้าคือการเร่งหาตลาดใหม่ และอยากให้ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามาดูค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปัจจุบันด้วย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
