ผู้ว่ากรุงเก่าสั่งปิดตลาดกุ้งอีก 7 วัน พบป่วย 'โควิด' เพิ่ม 14 คน จ่อเปิดใช้ รพ.สนาม
โควิด : ผู้ว่ากรุงเก่าสั่งปิดตลาดกุ้งอีก 7 วัน พบป่วย 'โควิด' เพิ่ม 14 คน รวมสะสม 203 คน จ่อเปิดใช้ รพ.สนาม เผยข้อห้ามระหว่างเดินทางมาตรวจหาเชื้อ
วันที่ 20 เม.ษ.64 ที่ห้องประชุมอโยธยา ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการฯ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ตัวแทนภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
โดยวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ รายใหม่ 14 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 203 ราย ส่วนใหญ่ เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งในที่ประชุมได้หารือในด้านต่างๆ อาทิ การเสนออนุมัติเปิดใช้โรงพยาบาลสนาม ที่หอประชุม มทร.สุวรรณภูมิศูนย์ หันตรา การขยายศูนย์พักฟื้น Hospitel ที่หอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา การออกคำสั่งเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด
นายภานุ กล่าวว่า ผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ตลาดกลางเพื่อเกษตรกร (ตลาดกุ้ง) ครั้งที่ 1 วันที่ 18 เม.ย.64 ตรวจหาเชื้อ 742 คน พบผู้ติดเชื้อ 6 คน ครั้งที่ 2 ตรวจหาเชื้อ 610 ราย พบ 5 ราย โดย 2 รายเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการ ที่ประชุมเสนอให้ปิดตลาดอีก 7 วันตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.-27 เม.ย. และในวันที่ 23 เม.ย. จะดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกในตลาดอีกครั้ง
โดยพี่น้องประชาชนถ้าการเดินทางไม่สะดวกอยู่ไกล เพื่อความสบายใจให้ตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลใกล้บ้านได้ ขณะนี้ทางทีมสอบสวนโรค จะเร่งควบคุมการแพร่กระจาย โดยทราบว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะไปรวมพักอาศัยบริเวณหลังตลาดกลาง ซึ่งหลังจากวันที่ 23 เม.ย.เมื่อตรวจแล้วจะประชุมประเมินสถานการณ์ในการปิดต่อไปหรือไม่อย่างไร
ส่วนของร้านอาหาร จะต้องทำความสะอาดทุกร้าน ซึ่งมีการทำไปแล้ว ต้องทำซ้ำอีก และพนักงานของร้านทุกคนจะลงทะเบียนทุกคน ตรวจหาเชื้อซ้ำ 3 ครั้ง เพื่อยืนยันความปลอดภัย แล้วจะออกบัตรไอดีการ์ดรับรอง สร้างความมั่นใจให้ประชาชน ให้พ่อแม่พี่น้องร้านอาหารได้กลับมาประอบอาชีพได้
นายภานุ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิดของจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังอยู่ในเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดระหว่างตรวจหาเชื้อโควิด ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ออกมาตราการปฏิบัติตนระหว่างที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ อาทิ ห้ามเดินมาตรวจเชื้อด้วยรถโดยสารสาธารณะ ห้ามไปในที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้า ให้เฝ้าสังเกตอาการที่บ้าน และปฎิบัติตามมาตรการ ที่สำคัญใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยง สัมผัสเสี่ยงสูงควรไปตรวจ และอย่าปิดบังไทม์ไลน์เด็ดขาด