WHO เตือนวัคซีนโควิดจะมีจำกัดจนถึงสิ้นปีนี้
วันนี้ ( 23 ก.พ. 64 )นายแพทย์เทโดรส อัดฮานอม เกรเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงข่าวเมื่อวานนี้ (อังคาร 22 ก.พ.) จากสำนักงานใหญ่ของ WHO ในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เตือนว่า วัคซีนต้านโควิด-19 จะเป็น “ทรัพยากรที่มีจำกัด” ทั้งในเวลานี้ และตลอดเวลาที่เหลือของปีนี้ ไปจนกระทั่งถึงสิ้นปี 2021 นี้ ดังนั้น เราจะต้องใช้วัคซีนต้านโควิดอย่างมีการวางแผนที่ชัดเจนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศที่มีรายได้สูง บริจาควัคซีนโควิด ผ่านทางโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก เพื่อแจกจ่ายไปยังประเทศกำลังพัฒนาอย่างทั่วถึง และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ หยุดการทำข้อตกลงซื้อขายวัคซีนกับบริษัทผู้ผลิตแบบทวิภาคี เนื่องจากเป็นการบั่นทอนข้อตกลงของ COVAX และลดจำนวนวัคซีนที่ CAVAX สามารถซื้อได้
ส่วนโครงการริเริ่มพัฒนาวัคซีนร่วม ที่เรียกว่า ACT Accelerator ที่ทาง WHO ได้ริเริ่มขึ้น เพื่อเร่งพัฒนาและแจกจ่ายวัคซีน ยา และชุดตรวจเชื้อโควิด-19 อย่างทั่วถึงทั่วโลก นั้น เทโดรสระบุว่า ยังขาดแคลนเงินทุนอีก 22,900 ล้านดอลลาร์
นายแพทย์เทโดรสยังรู้สึกยินดี ที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เรียกร้องให้ยุโรปและสหรัฐ บริจาควัคซีนต้านโควิด 5% จากทั้งหมดที่มีอยู่ ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา เพื่อการแจกจ่ายวัคซีนอย่างเท่าเทียมทั่วโลก
ขณะเดียวกัน ทางด้านนายแพทย์แอนโธนี เฟาซี หัวหน้าคณะที่ปรึกษาทางการแพทย์ของรัฐบาลสหรัฐ ได้ร่วมแถลงข่าวมาจากกรุงวอชิงตันดีซีด้วย โดยกล่าวว่า สมควรต้องหาวิธีแก้ปัญหาระยะยาว เพื่อให้ประเทศยากจน ไม่ต้องพึ่งพิงวัคซีนต้านโควิดจากการบริจาคเท่านั้นในอนาคต โดยประเทศเหล่านี้ควรมีความสามารถในการผลิตวัคซีนด้วยตนเอง เพื่อให้เป็นอิสระจากการต้องพิ่งพาการบริจาควัคซีนจากประเทศอื่นๆ
เฟาซียังตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ถามถึงอาการแพ้วัคซีนต้านโควิดอย่างรุนแรง จากการได้รับวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์น่า ที่พบในสหรัฐ ว่า ไม่ควรเป็นเหตุผลที่จะไม่ฉีดวัคซีน เพราะอันตรายจากการติดเชื้อโควิด มีมากกว่าอันตรายจากการแพ้วัคซีน วิธีแก้คือ ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง ให้ฉีดวัคซีนภายในสถานพยาบาล ที่สามารถรักษาอาการแพ้วัคซีนได้ในทันที.