ดร.เสรีชี้อากาศแปรปรวน ทำไทยเจอพายุ 3 ลูกติด ยันปีนี้ไม่ท่วมใหญ่เหมือนปี 54

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตือนถึง ความแปรปรวนของสภาพอากาศ หลังเกิดพายุ 3 ลูกติดกันในรอบเดือนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ปัจจัยสำคัญมาจาก อุณหภูมิพื้นดินและทะเลที่สูงกว่าปกติ
พายุแต่ละลูกมีความรุนแรงและทิศทางต่างกัน โดยพายุ “วิภา” สร้างฝนสะสมสูงสุดในบางพื้นที่ถึง 300–400 มม. ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่พายุในอนาคตจะมีความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจำนวนพายุเฉลี่ยต่อปียังอยู่ที่ประมาณ 25 ลูก โดยพายุที่เคยเป็นโซนร้อนอาจพัฒนาเป็นไต้ฝุ่น และไต้ฝุ่นอาจกลายเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ทำให้เกิดฝนและลมแรงมากขึ้น
รศ.ดร.เสรีเน้นย้ำว่า ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดน้ำท่วมรอการระบาย น้ำท่วมชุมชน และน้ำล้นตลิ่ง นอกจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังรวมถึง การจัดการพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การใช้ที่ดิน ผังเมือง ถนน ระบบระบายน้ำ และผนังกั้นน้ำ ความสามารถในการจัดการน้ำของแต่ละชุมชนแตกต่างกัน ทำให้แม้ว่าจะมีการเตือนภัยจากหน่วยงานกลาง แต่ผลกระทบยังคงรุนแรงและเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
คาดการณ์สภาพอากาศระยะสั้น รศ.ดร.เสรีระบุว่า ในช่วงบ่ายตลอดเดือนกันยายนจนถึงกลางเดือนตุลาคมจะร้อนมากกว่าปกติ ปริมาณฝนจะมากกว่าปกติในสัปดาห์แรก และลดลงเป็นปกติในลำดับต่อไป แม้ปรากฏการณ์ “ลานีญา” อ่อน ๆ จะเกิดปลายปี แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 น้ำท่วมจะเป็นแบบ น้ำท่วมรอการระบาย ส่วนพื้นที่ภาคใต้หลายแบบจำลองคาดว่าจะไม่มีน้ำท่วมรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา ยกเว้นหากจะมีพายุจรเข้ามา ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้
รศ.ดร.เสรีย้ำว่า สภาพอากาศอาจสลับขั้วไปสู่ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ตั้งแต่ต้นปีหน้า พร้อมขอให้ติดตามการอัปเดตสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
