รีเซต

มาตรการ EV 3.5 เคาะแล้ว! รัฐอุดหนุนเงินรถ EV สูงสุด 1 แสนบาท/คัน เริ่มใช้ 2 ม.ค. 2024

มาตรการ EV 3.5 เคาะแล้ว! รัฐอุดหนุนเงินรถ EV สูงสุด 1 แสนบาท/คัน เริ่มใช้ 2 ม.ค. 2024
แบไต๋
20 ธันวาคม 2566 ( 12:22 )
38
มาตรการ EV 3.5 เคาะแล้ว! รัฐอุดหนุนเงินรถ EV สูงสุด 1 แสนบาท/คัน เริ่มใช้ 2 ม.ค. 2024

มาตรการ EV 3.0 ที่รัฐจะสนับสนุนส่วนลดราคารถยนต์ไฟฟ้าสูงสุด 150,000 บาทต่อคัน กำลังจะสิ้นสุดลงภายในปี 2023 แต่ความหวังของผู้ที่อยากจะก้าวข้ามรถสันดาปมาสู่รถ EV ยังไม่หมดหวัง ล่าสุดคณะรัฐมนตรี ขยายการอุดหนุนด้วยมาตรการ EV 3.5 ที่จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 มกราคม 2024

คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 ในช่วงเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2024 – 2027) โดยมีผลเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2024 พร้อมเดินหน้าผลักดันให้ไทยบรรลุเป้าหมายการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด ภายในปี 2030 และก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050

สำหรับมาตรการ EV 3.5 คาดว่าจะใช้งบประมาณจำนวน 34,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 4 ปี จะมีผลใช้บังคับครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, รถกระบะไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยสิทธิประโยชน์ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เงินอุดหนุน, การลดอัตราอากรขาเข้ารถยนต์สำเร็จรูป และการลดอัตราภาษีสรรพสามิต โดยเงินอุดหนุนจะเป็นไปตามประเภทของรถ และขนาดของแบตเตอรี่ ดังนี้

รถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้าน

แบตเตอรี่ต่ำกว่า 50 kWh
ปีที่ 1 ได้รับเงินอุดหนุน 50,000 บาท/คัน
ปีที่ 2 ได้รับเงินอุดหนุน 35,000 บาท/คัน
ปีที่ 3 – 4 ได้รับเงินอุดหนุน 25,000 บาท/คัน

แบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh

ปีที่ 1 ได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน
ปีที่ 2 ได้รับเงินอุดหนุน 75,000 บาท/คัน
ปีที่ 3 – 4 ได้รับเงินอุดหนุน 50,000 บาท/คัน

รถกระบะไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

แบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh ได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน ตลอดระยะเวลา 4 ปี (เฉพาะส่วนที่ผลิตในประเทศ)

รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 150,000 บาท

แบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน 10,000 บาท/คัน ตลอดระยะเวลา 4 ปี (เฉพาะส่วนที่ผลิตในประเทศ)

นอกจากนี้จะมีการลดอากรขาเข้าไม่เกินร้อยละ 40 สำหรับการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูป (CBU) ที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีแรก (2024 – 2025) และลดอัตราภาษีสรรพสามิตเหลือร้อยละ 2 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท

โดยได้กำหนดเงื่อนไขการลงทุนในประเทศ ให้ผู้ได้รับการสนับสนุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อชดเชยการนำเข้าภายในปี 2026 ในอัตราส่วน 1 : 2 (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 2 คัน) และจะเพิ่มอัตราส่วนเป็น 1 : 3 ในปี 2027 ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ EV 3.0 สามารถเข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 ได้เช่นกัน

อ้างอิง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง