รีเซต

ส่งออกต.ค. ยังติดลบ 6.71% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกของไทยหดตัว 7.26% คาดทั้งปีติดลบ 7%

ส่งออกต.ค. ยังติดลบ 6.71% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกของไทยหดตัว 7.26% คาดทั้งปีติดลบ 7%
ข่าวสด
23 พฤศจิกายน 2563 ( 13:53 )
44
ส่งออกต.ค. ยังติดลบ 6.71% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกของไทยหดตัว 7.26% คาดทั้งปีติดลบ 7%

ส่งออกต.ค. ยังติดลบ 6.71% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกของไทยติดลบ 7.26% - คาดทั้งปีติดลบ 7 เท่าเดิม เผยสินค้า 3 กลุ่มเดิมยังมาแรง

 

ส่งออกต.ค.ยังติดลบ6.71% - น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือนต.ค. 2563 มีมูลค่า 19,376.68 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 6.71% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 17,330.15 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 14.32% ส่งผลให้การค้าเกินดุล 2,046.53 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ส่วนส่งออกภาพรวม 10 เดือนแรกของปี 2563 มีมูลค่า 192,372.77 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 7.26% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 169,702.56 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 14.61% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกของปี 2563 ไทยมีการค้าเกินดุล 22,670.21 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ทั้งนี้ แม้ว่าการส่งออกจะติดลบ หากหักน้ำมัน ทองคำ อาวุธ การส่งออกไทยติดลบน้อยลง ติดลบ 4.89% โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกดีขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายจากเรื่องของโควิด-19 รวมไปถึงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและการคลังในหลายประเทศ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีความต้องการนำเข้าสินค้า การส่งออกสินค้าไทยขยายตัวหลายรายการ ซึ่งการส่งออกสินค้าไทยยังอยู่ในทิศทางที่ดีตามเทรนของโลกอยู่ โดยตลาดสำคัญยังเป็นสหรัฐ ออสเตรเลีย

 

สำหรับสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ยังเป็นสินค้ากลุ่มเดิมที่เติบโตต่อเนื่อง 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. สินค้าอาหาร เช่น น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์เลี้ยง สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร

 

2. สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เตาอบไมโครเวฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และโซลาร์เซลล์ 3. สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น ถุงมือยาง ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาด ทำให้ความต้องการยางพาราในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งส่งผลดีต่อราคายางพาราของไทยในช่วงนี้

 

ด้านตลาดส่งออก ตลาดสหรัฐ และออสเตรเลีย ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่หลายตลาดกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะอินเดีย เนเธอร์แลนด์ และเม็กซิโก รวมทั้งตลาดอื่นๆ ที่มีสัดส่วนสำคัญกับการส่งออกไทย ล้วนมีอัตราการหดตัวที่ลดลงมากในเดือนนี้ เช่น ฮ่องกง เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ในขณะที่การค้าชายแดนของไทยโดยเฉพาะประเทศใน CLMV ยังคงได้รับผลกระทบจากการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัส

 

“ตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยยังในทิศทางฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป มูลค่าการส่งออกในหลายตลาดค่อยๆ ปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน และหลายตลาดกลับมาขยายตัวในระดับสูง หากการส่งออกจากนี้ 3 เดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 18,329 ล้านเหรียญสหรัฐ/เดือน ทำให้ภาพการส่งออกทั้งปี 2563 ยังอยู่ที่ ติดลบ 7% ซึ่งยังไม่มีการปรับประมาณการ การส่งออกทั้งปีเป็นอย่างไร ขณะที่ภาพการส่งออกทั้งปี 2564 ยังประเมินว่าการส่งออกยังขยายตัวเป็นบวกอยู่ โดยยังต้องจับตาปัญหาเรื่องของโควิด-19 ค่าเงินบาท การขยายตัวทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ หรือ หากส่งออกเฉลี่ย 19,000 เหรียญสหรัฐ/เดือน ก็จะทำให้การส่งออกครึ่งปีหลังของปี 2564 ทำได้ดีขึ้นและในปีหน้าก็จะเชื่อว่าส่งออกไทยจะโต”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง