ASW โชว์ Q1/65 กำไรสุทธิ 226 ลบ. ,ไตรมาส 2 เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ 5 พันล.
#ASW #ทันหุ้น -บมจ.แอสเซทไวส์ หรือ ASW เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ทำรายได้รวมกว่า 1,270 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท โชว์ความสำเร็จจากการซื้อโครงการ แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา-สุทธิสาร ดันยอดโอนกรรมสิทธิ์ตามแผน ประกาศตอกย้ำผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ที่มอบความสุขผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ตอบโจทย์ ไตรมาส 2 เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท รุกกลยุทธ์การตลาดเต็มสูบ รับธุรกิจอสังหาฯ ฟื้นตัว ส่งซิกโครงการแนวสูงกลับมาคึกคัก ยอดขายทั้งปีตามเป้าหมายที่ 10,000 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 1/2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,270 ล้านบาท ลดลง 18% QoQ และเพิ่มขึ้น 2% YoY โดยโครงการที่ทยอยโอนกรรมสิทธิ์หลักๆ ได้แก่ โครงการ แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา-สุทธิสาร มูลค่าโครงการ 570 ล้านบาท ,โครงการแนวราบ บ้านภูริปุรี ลาดพร้าว 41 มูลค่าโครงการ 90 ล้านบาท ,โครงการ เคฟทาวน์ ชิฟท์ มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท และโครงการ โมดิซ สุขุมวิท 50 มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท ซึ่งรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% QoQ และลดลง 29% YoY ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราการทำกำไรขั้นต้น (GP) ได้ในระดับ 36% และอัตรากำไรสุทธิ (NP) ที่ 18% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงหากเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 คาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยจะมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นจากปัจจัยบวกลูกค้าเริ่มคลายความกังวลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 หลังภาครัฐยกเลิกมาตรการ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา รับนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ส่งผลให้กลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2 บริษัทเดินหน้าตอกย้ำผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัย โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,980 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ,โครงการ เอสต้า รังสิต-คลอง 2 มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท, โครงการ แอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท และโครงการ เคฟ โคโลนี มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการในทุกด้าน และพร้อมเดินหน้าทำการการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจับมือกับพันธมิตรสร้างมิติใหม่ให้กับผู้อยู่อาศัยโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ มั่นใจว่าด้วยการกลยุทธที่บริษัทวางไว้ จะช่วยผลักดันยอดขายทั้งปีตามที่ตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เติบโต 13% และมีรายได้รวมในปีนี้ที่ 6,000 ล้านบาท เติบโต 19% ตามเป้าหมาย