บิ๊กแจ๊ส รุดตรวจ จุดนักเรียนถูกชน สั่งเร่งแก้ไข ลั่นไม่ยอมให้ลูกหลานปทุมฯตายคาทางม้าลาย
ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2565 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบท ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ร่วมลงพื้นตรวจสอบกรณีมีเด็กนักเรียนโรงเรียนเจริญดีวิทยาคม ประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน จนได้รับบาดเจ็บ โดยมีการประสานทางหลวงชนบทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตั้งป้ายเตือนและไฟสัญญาณจราจรปรับปรุงสภาพถนนเพื่อระบบไฟเตือนให้หยุดรถเมื่อเด็กข้ามถนนประสานท้องถิ่นพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ช่วยจราจรเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนในขณะที่ข้ามถนนที่บริเวณหน้าโรงเรียนไม่ใช่เฉพาะที่โรงเรียนเจริญดีวิทยาคมที่เดียวเดินหน้าทำทั่งจังหวัดปทุมธานีหากหน่วยงานต่างๆไม่พร้อมด้านไหนทาง อบจ. จะเข้าไปเสริมในสิ่งที่ขาดอย่างเต็มที่
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เมื่อมาดูที่เกิดเหตุที่เด็กนักเรียนข้ามทางม้าลายแล้วถูกรถชนได้รับบาดเจ็บตนเองจึงมาตรวจสอบและสอบถามถึงอาการบาดเจ็บทางผู้อำนวยการโรงเรียนแจ้งว่าเด็กที่บาดเจ็บเป็นประธานนักเรียนเป็นเด็กดีอาการตอนนี้ ปลอดภัยแล้วกลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้านโดยไม่มีอาการแขนขาหักหรือสมองบวมแต่อย่างไรแล้วด้านที่เกิดเหตุพบว่าถนนที่ผ่านหน้าโรงเรียนนั้นมีรถที่สัญจรในเส้นทางนี้ใช้ความเร็วมาก จึงน่าเป็นห่วงมากโดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นที่นักเรียนมักจะต้องข้ามถนนเพื่อเข้าโรงเรียน หากมีการเพิ่มสัญญาณไฟเตือนเป็นระยะ ตั้งแต่ก่อนจุดข้ามทางม้าลายซึ่งเป็นเขตโรงเรียนเพื่อให้รถชะลอตัว โดยมีการหารือกับทางแขวงทางหลวงชนบท ว่าต้องมีการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
“ทั้งหมดจะให้ทาง อบจ.ปทุมธานีทำอะไร สามารถสั่งมาได้ หากจะไปรองบของทางหลวงชลบทก็จะช้า จะมาให้ลูกหลานของเราเสี่ยงชีวิตมาเกิดอุบัติเหตุแบบนี้อีกไม่ได้ ผมไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุแบบนี้อีก ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนก็ขอให้ขับขี่กันแบบระมัดระวังโดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงเรียนให้ชะลอความเร็วรวมถึงรักษากฏจราจรอย่างเคร่งครัด” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว
นายธัญวิทย์ พงษ์พิทยา ผู้อำนวยการโรงเรียนเจริญดีวิทยาคม กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านนายก อบจ.ปทุมที่เป็นห่วงขณะนี้อาการของเด็กนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุไม่เป็นอันตรายอะไรมาก ยังมีอาการคางบวม เอ๊กซเรย์ทางสมองไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เบื้องต้นรักษาตัวที่บ้านให้ดีขึ้น ส่วนมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ซึ่งเราได้ทำมาโดยตลอดแต่จะต้องเข้มงวดขึ้น โดยมีครูเวรโบกธงแดงเพื่อพาเด็กข้ามถนน และฝากถึงผู้ที่ใช้รถสัญจรเส้นทางนี้ช่วยชะลอความเร็วก่อนถึงบริเวณหน้าโรงเรียน เพราะปัจจุบันใช้ความเร็วมากเนื่องจากเป็นเส้นทางหลักและสภาพถนนเป็นเส้นทางตรง ไม่สนใจป้ายเตือนจราจรแต่อย่างใด จึงวอนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนในทุกพื้นที่ของให้ปฏิบัติตามกฎจราจรยิ่งเขตโรงเรียน วัด ชุมชน ต้องให้ความระมัดระวัง.