ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ภาคเหนือ เงินหมุนเวียน 100 ล้าน
ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข สืบสวนไปตรวจยึดพร้อมจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่รายที่ 18 และอยู่ในบัญชีของตำรวจที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวมานานก่อนจะนำกำลังเข้าไปตรวจค้นจับกุม
พล.ต.ท. นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำให้ทุกหน่วยต้องสืบสวนจับกุมพร้อมยึดของกลางเพื่อนำไปทำลายทิ้ง พยายามป้องกันเด็กเยาวชนไม่ให้มีโอกาสเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด โดยกำชับตำรวจท้องที่เข้มงวดตรวจตรารอบสถานศึกษา ห้ามให้มีร้านจำหน่ายโดยเด็ดขาด
ขณะเดียวกันในส่วนของการปราบปรามซัพพลาย หรือ สินค้าที่ถูกลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายเป็นหน้าที่หลักของตำรวจ ปคบ.ซึ่งได้สืบสวนไปจับกุมมาแล้วหลายราย ล่าสุด คือรายใหญ่รายนี้ ที่เปิดจำหน่ายให้กับลูกค้าผ่านทางออนไลน์ใช้ชื้อเว็บไซต์ว่า ใหญ่เว็บ ซึ่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ามานานกว่า 4 ปี มีเงินหมุนเวียนรวมกว่า 100 ล้านบาท และจากการสอบสวนผู้ต้องหา บอกว่า เป็นคนทำหน้าที่ควบคุมดูแลเองทุกขั้นตอน ทั้งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ เปิดบัญชีรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า และจัดส่งสินค้าทางขนส่ง มีรายได้เดือนละ 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าจะเป็นเด็ก เยาวชน รู้จักกันแพร่หลายในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน
ทั้งนี้การจัดหาบุหรี่ไฟฟ้านำเข้ามาจำหน่าย จะเลือกแบบที่ทันสมัย นอกจากรูปแบบลวดลายแล้ว ยังเน้นตัวที่สามารถสูบได้นานขึ้นหรือ 1 ตัว ที่นำเข้าจะผสมสารที่ทำให้ใช้งานได้ 1 หมื่น 2 พัน ครั้ง โดยจากนี้ตำรวจจะขยายผลเพื่อให้นำไปสู่การยึดทรัพย์
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวย้ำว่า การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ความท้าทาย คือ ต้นทางของการนำเข้า เนื่องจากในประเทศต้นทางบางประเทศไม่ได้มีกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า หรือ เปิดให้ค้าขายได้อย่างเสรี ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือต้องเข้มงวดการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายภายในประเทศเท่านั้น
ด้าน นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า นอกจากมุ่งปราบปรามจับกุมผู้ค้า ยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าจะต้องถูกทบทวนปรับแก้ไขข้อกฎหมายมาควบคุมโดยเฉพาะ
ที่มาภาพ : บช.ก.