4 โบรกฯ ส่องหุ้น HANA รุมหั่นกำไร-ราคาปรับหมายลง
#HANA #ทันหุ้น-โบรกเกอร์ 4 รายออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA หลังจากที่ได้มีการประชุมนักวิเคราะห์ โดยมีมุมมองในเชิงลบ จากผลประทบของสงครามรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมถึงธุรกิจ SiC ที่ยังขาดทุน จึงทำให้โบรกเกอร์ปรับลดคำแนะนำ และประมาณการกำไรลง
บล.เอเซีย เวลท์ แนะนำซื้อหุ้น HANA ให้ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 60 บาทต่อหุ้น หลังจากที่ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ลง 35% จากเดิม เป็น 1,984 ล้านบาทจากการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงเป็น 12.2% จากเดิม 15.7% เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด จากอัตรากำไรที่ต่ำ อย่างไรก็ตามประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ยังเติบโต 28% และ 21% ตามลำดับ
ขณะที่ธุรกิจ SIC ในเกาหลีใต้จะเน้นให้ความสำคัญในตลาดจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถ EV รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยยังมองเห็นโอกาสในการเติบดต อย่างไรก็ตามคาดยังขาดทุนในธุรกิจนี้ ดดยทั้งปี 2565 คาดขาดทุน 580-620 ล้านบาท และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในช่วงปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568 แม้ระยะสั้นยังมีปัจจัยกดดันจากต้นทุนที่สูง รวมถึงการขาดทุนของธุรกิจ SiC แต่มองเห็นโอกาสในการเติบโตในระยะยาว
บล.เคทีบีเอสที ปรับลดคำแนะนำในหุ้น HANA ลงเป็นขาย จากเดิมซื้อ พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 41 บาทต่อหุ้นจากเดิมที่ 70 บาทต่อหุ้น โดยมีมุมมองเป็นลบจากการประชุมนักวิเคราะห์ ภาพรวมอุตสาหกรรมเปลี่ยไปในทิศทางตรงข้าม หลังจากเกิดสงครามรัสเซียกับยูเครน และถูกซ้ำเติมโดยจีนประกาศล็อคดาวน์ ส่งผลให้คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ และ smartphone ที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีในปีนี้ กลายเป็นหดตัว อีกทั้งปัจจัยลบดังกล่าว ทำให้เกิด supply chain disruption ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นมาก
ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปกติในปี 2565-2566 ของ HANA ลง 25% และ 26% ตามลำดับ อยู่ที่ 1,713 ล้านบาท ลดลง 24% จากปีก่อน และอยู่ที่ 1,852 ล้านบาท โต 8% การที่ปรับลดคำแนะนำ เนื่องจากมองว่าในระยะสั้นราคาหุ้นยังมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย ได้แก่ ดอกเบี้ยขาขึ้นกระทบกำลังซื้อ จีนล็อคดาวน์ สงครามรัสเซียกับยูเครน แม้ว่าในระยะยาวอุตสาหกรรมเซมิคอนดัดเตอร์ยังอยู่ในช่วงเติโต และดีมานด์ยังแข็งแกร่ง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า หลังจากประชุมนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงลบในไตรมาส 2/65 ของ HANA มากขึ้น หลังเผชิญปัจจัยลบมากขึ้นจากสงครามรัสเซีย และจีนล็อคดาวน์ คาดกระทบให้รายได้ของโรงงานในจีนลดลงราว 25% ประกอบกับจะรับรู้ขาดทุนจากผลิตสินค้าใหม่ SiC ซึ่งมีโรงงานในเกาหลีใต้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ยังคาดหวังการฟื้นตัวในครึ่งหลังปีนี้ หลังจีนยกเลิกล็อคดาวน์ แต่ยังมีความเสี่ยงจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่จะกระทบต่อกำลังซื้อ โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเลก็ทรอนิกส์อย่าง Smartphone และ Computer ที่ถูกเร่งซื้อไปมากในช่วงโควิดที่ผ่านมา
ทั้งนี้มีเพียงอุตสาหกรรม EV Car ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว แต่สัดส่วนรายได้จาก EV ของบริษัทยังน้อย ยังต้องรอการเติบโตของสินค้าใหม่ SiC ในระยะถัดไป ดังนั้นฝ่ายวิจัยฟินันเซีย ไซรัส จึงปรับลดกำไรปี 2565 ลง 21.9% เป็นกำไรที่ลดลง 26.8% จากปีก่อน และคาดกำไรจะกลับมาโตในปี 2566 เพิ่มขึ้น 24.4% นำไปสู่การปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 48 บาทต่อหุ้น และปรับคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ
บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ยังคงแนะนำถือหุ้น HANA แต่ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2566 ลง 10% และ 7% ตามลำดับ เนื่องจากบริษัทได้เผชิญแรงกดดันจากต้นทุน จึงได้ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ลงจากเดิม 13.5% เหลือ 13.1% ส่วนในปี 2566 ลดลงเหลือ 14.2% จากเดิม 14.3% พร้อมทั้งปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 48 บาทต่อหุ้นจากเดิมที่ 53 บาทต่อหุ้น
ราคาหุ้น HANA เคลื่อนไหวอยู่ที่ 46.25 บาท ลบ 0.75 บาท หรือ 1.60% มีมูลค่าการซื้อขาย 175.03 ล้านบาท