ภูเก็ตเตียงวิกฤต-เดลต้าลาม เร่งเข็ม 3-ป้องแซนด์บ็อกซ์ หมอชนบทชี้โควิดยังเสี่ยง
เมื่อวันที่ 6 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์โควิดในจังหวัดจ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา สสจ.ภูเก็ตรายงานข้อมูล เวลา 23.55 น. วันที่ 4 กันยายน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 240 ราย จากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีผู้ติดเชื้อสะสม 5,254 ราย ผู้ติดเชื้อจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สะสม 88 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย รวมผู้เสียชีวิต 24 ราย ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อยังคงรักษาตัวใน รพ. 2,332 ราย
นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์ สสจ.ภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตว่า สถานการณ์โควิดอยู่ในช่วงการระบาด ช่วงแรกติดเชื้อจากสายพันธุ์อัลฟ่า ต่อมาติดเชื้อจากสายพันธุ์เดลต้า วัคซีนที่ประชาชนฉีดแล้วขณะนี้ป้องกันการติดเชื้อค่อนข้างน้อย แต่ป้องกันการเจ็บหนักและเสียชีวิตได้ ขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียว 85% ผู้ป่วยอาการเล็กน้อยปานกลาง 13% ผู้ป่วยอาการหนัก 1-2%
นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการ รพ.ชิระภูเก็ต กล่าวว่า เชื้อเดลต้าระบาดใน จ.ภูเก็ต 70% ชัดเจนว่าฉีดวัคซีน 2 เข็มไม่ป้องกันการติดโควิด ปัญหาขณะนี้คืออัตราการครองเตียงใน รพ.รัฐและ รพ.เอกชนเต็มและล้นเป็นวิกฤตแล้ว อัตราครองเตียง 80% ใน รพ.หลัก ได้ขยายเตียงไปที่ รพ.สนามแห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 ที่เคยรับผู้ป่วยสีเขียว เป็นรับผู้ป่วยสีเหลืองแทน
“วัคซีนที่ฉีด 2 เข็ม เอาไม่อยู่ คนไข้ 85% เป็นสีเขียว จะขอให้ท้องถิ่นดูแล โดยผู้ป่วยสีเขียวอยู่บ้านหรือฮอสปิเทล ต้องเก็บเตียงในโรงพยาบาลให้คนไข้ที่จำเป็นจริงๆ เพื่อให้สาธารณสุขไปรอด ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินต่อได้ นอกจากนี้ต้องระดมวัคซีนเข็ม 3 ในวันที่ 9 กันยายน เริ่มฉีดให้ด่านหน้าประมาณ 9,000 คน และเข็ม 1 เข็ม 2 ผู้สูงอายุ มีวัคซีนเหลืออีกกว่า 20,000 โดส จะต้องระดมฉีดวันละกว่า 15,000 คน ถ้าจะให้เดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ต่อ เพื่อรับนักท่องเที่ยว ช่วงหน้าไฮซีซั่นในเดือนตุลาคมนี้ได้” นพ.เฉลิมพงษ์กล่าว
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯภูเก็ต กล่าวว่า ต้องควบคุมโควิดที่แพร่ระบาดไปทั่วจังหวัดแล้ว เอาสายพันธุ์เดลต้าไม่อยู่ แพร่ระบาดรวดเร็วมาก ยิ่งตรวจยิ่งเจอ ขณะนี้ได้ขยายศูนย์พักคอยในชุมชนและ รพ.สนาม สำหรับผู้ป่วยสีเหลืองแล้ว
“แพร่ระบาดเร็ว เตียงวิกฤต ต้องยอมรับ ทางออกคือทำให้คนคิดว่าต้องอยู่กับมันให้ได้ สำคัญที่สุดคือการรักษาแซนด์บ็อกซ์ไว้ เพราะเป็นทางรอดให้เศรษฐกิจเดินไปได้ วันนี้ความสามารถทางการแพทย์ถึงจุดวิกฤต เนื่องจากเดลต้ามาแรง กระจายไปทั่วภูเก็ต คนภูเก็ตต้องเดินหน้าต่อ สถานการณ์เตียงใกล้วิกฤตต้องปรับวิธีทำงานกันใหม่ โดยจะประชุมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ อสม.ในวันที่ 6 กันยายน เพื่อร่วมกันดูแลกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวต่อไป” นายณรงค์กล่าว
ทางด้านชมรมแพทย์ชนบท โพสต์เพจเฟซบุ๊กแนวโน้มการระบาดของโควิดในประเทศไทย ระบุว่า ยอดผู้ป่วยโควิดวันที่ 5 กันยายน ที่ตรวจด้วยวิธียืนยันอาร์ที-พีซีอาร์ รายใหม่ 15,452 ราย จากจำนวนการตรวจโดยเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 44,562 ราย และไม่มีรายงานการตรวจด้วยเอทีเค มีผู้เสียชีวิต 224 ราย อาการหนัก 4,682 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,008 ราย ยังถือเป็นภาวะวิกฤต ที่ไม่อาจประมาทได้ เมื่อเริ่มเปิดประเทศให้มีการเดินทาง มีกิจกรรมที่เปิดกว้างขึ้น แนวโน้มการติดเชื้อรายใหม่ หรือคนที่ติดเชื้อซ้ำอาจพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ยาที่ใช้เป็นยาหลักอาจมีประสิทธิภาพลดลง อัตราตายเพิ่มขึ้น การคัดกรองยังเป็นความจำเป็นสูงสุด
ทั้งนี้ ชมรมแพทย์ชนบทยกข้อความที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนในเฟซบุ๊กส่วนตัวมาโพสต์ซ้ำว่า การรักษาหนักหนา ยามีจำกัด และแพงมหาศาล บุคลากรตายตัว โดยการรักษา ระยะรุนแรงขึ้นที่มีอาการทางปอด ยาแรงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษามหาศาล ต้องลดการติดเชื้อให้ได้จริงๆ ไม่เช่นนั้นสัดส่วนของผู้มีอาการหนัก ที่อาจสูงขึ้นถึง 20% และต้องเข้าโรงพยาบาลจนกระทั่งถึงการรักษาวิกฤต
การคัดกรองเป็นความจำเป็นสูงสุดไม่ว่าตรวจด้วยตนเอง ทุก 3-4 วัน โดยเฉพาะที่มีโอกาสรับเชื้อ ด้วยเอทีเค ไม่ห่วยž ประสิทธิภาพต้องไว้ใจได้ระดับหนึ่ง ราคา ไม่โก่งž หรือตรวจด้วยกระบวนการมาตรฐาน เข้าถึงได้ทุกคน เมื่อพลาดติด ทราบนาทีนั้น ฟ้าทะลายโจร ยาฆ่าพยาธิไอเวอร์แมคติน จะช่วยยังให้เป็นสีเขียวและถ้ายกระดับฟาวิพิราเวียร์ ต้องระวังประสิทธิภาพของยาที่อาจเริ่มไม่ได้ผลมากขึ้นเมื่อเจอกับไวรัสที่มีการปรับตัวสูง