รู้จัก RO Water สุดยอดเครื่องกรองน้ำ กรองละเอียด แบคทีเรียไม่เหลือ

Carbon Neutral ภายในปี 2030

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ดำเนินธุรกิจที่นึกถึงสิ่งแวดล้อม มีส่วนร่วมกับสังคมด้วยการลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อโลกให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ ซีพี ที่ได้ตั้งเป้าในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2030

"RO Water" สุดยอดเครื่องกรองน้ำ

ล่าสุดกลุ่มทรู ยังได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูง เข้ามาส่งเสริมการลดการใช้ขวดพลาสติก และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นั่นก็คือเครื่องกรองน้ำประสิทธิภาพสูงที่ชื่อว่า "RO (อาร์โอ) หรือ (Reverse Osmosis)" โดยมีคุณขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาเป็นผู้นำโครงการ

คุณขจรเล่าว่า จุดเริ่มเริ่มต้นของโครงการนี้ เกิดความใส่ใจของผู้บริหาร ที่ต้องการลดคาร์บอนในสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากให้พนักงานทุกคนลดการใช้ขวดพลาสติกภายในอาคาร ซึ่งจากสำรวจพบว่า ภายในอาคารทรู ทาวเวอร์ มีขยะประเภทขวดพลาสติกมากถึง 400,000 ขวดต่อปี รวมถึงยังต้องการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพให้กับพนักงาน ที่อาจจะมีโอกาสเผชิญสิ่งปนเปื้อนที่มากับพลาสติกได้ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีต่าง ๆ และไมโครพลาสติก หรือเม็ดพลาสติกขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เครื่อง "RO Water" จึงได้ถือกำเนิดขึ้น

"ทุกคนก็รู้อยู่ว่าโลกเรากำลังเปลี่ยนไป โลกเรามีปัญหาจริง ๆ เรามีขยะเยอะ เรามีพลาสติกเยอะ แต่ถ้าจะบอกว่าให้ทุกคนอยู่ดี ๆ ให้หยุด ไม่ให้ใช้ไม่ให้ดื่มไม่ให้ใช้ขวดพลาสติก ไม่ได้ เค้าต้องมีทางออกให้เค้า"

ความสามารถของเครื่องกรองน้ำ "RO Water" 

• เป็นระบบน้ำวนกลับ  มีกระบวนการกรองน้ำผ่านตัวกรองแบบพิเศษ 2 ชั้น ที่มีความละเอียดมากถึง 0.0001 ไมครอน หรือเล็กกว่าเส้นผมคนเราที่มีขนาด 100 ไมครอน ถึง 1 ล้านเท่า
  
  
• มีการฆ่าเชื้อด้วยระบบ UV
  
  
• มีแรงดันที่สูงมาก จึงมีเพียงโมเลกุลขนาดเล็กของน้ำเท่านั้นที่จะผ่านไปได้ ส่งผลให้สิ่งเจือปนต่าง ๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส โลหะหนัก และสารพิษ จะถูกขจัดออกไปทั้งหมด
  
  
• ติดตั้งในห้องปลอดเชื้อ Class 100,000 ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย โดยใช้ท่อสแตนเลส 316L ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับการผลิตน้ำทางการแพทย์ ถือเป็นกระบวนการกรองน้ำที่สะอาดและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบัน
  
  
• ระบบการผลิตน้ำตั้งอยู่ในชั้น 14 และจ่ายน้ำไปยังตู้น้ำดื่มและเครื่องทำน้ำแข็งบริเวณชั้นต่าง ๆ ทั่วทั้งอาคารกว่า 90 จุด เราสามารถนำภาชนะมากดน้ำดื่มได้ฟรี ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตกว่า 24,000 ลิตรต่อวัน

"อย่างไรก็ตาม เมื่อเราพูดถึงคำว่า น้ำสะอาด เพียงแค่คำพูดคงไม่สามารถการันตีและทำให้ผู้ดื่มนั้น มั่นใจถึงความปลอดภัยได้ แต่น้ำดื่มจากเครื่องกรองน้ำ RO นั้น ได้รับการรับรองความสะอาดด้วยมาตรฐานระดับโลก"

ประสิทธิภาพเกินราคา 

กรองน้ำ "RO Water" นี้เป็นโครงการที่ใช้ทุนวิจัยสูงถึง 122 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก โดยตัวเครื่องกรองได้รับการรับรองความสะอาดด้วยมาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น

1. มาตรฐานการผลิตน้ำดื่มจากองค์การอนามัยโลก

2. ระบบควบคุมกระบวนการผลิตตามมาตรฐานขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ

3. มาตรฐานวัสดุที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา

4. มาตรฐานคุณภาพน้ำดื่มบรรจุขวดโดยสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ผลลัพธ์ของตัวเครื่องกรองน้ำถูกประเมินผ่านจำนวนครั้งที่พนักงานกดน้ำในแต่ละจุด ซึ่งเทียบเท่ากับลดการใช้ขวดพลาสติกถึง 4 แสนขวดต่อปี ลดการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 53.54 ตัน ซึ่งเทียบกับการปลูกต้นไม้ใหญ่ถึง 5,684 ต้น แถมยังช่วยให้ประหยัดเงินในการซื้อน้ำถึง 3,300 บาท/คน/ปี 

คุณนันทิพัฒน์ ผู้ดูแลโครงการ RO Water กล่าวว่า:

"โครงการ RO Water ก็ช่วยให้ นอกจากตัวผมเอง ก็ช่วยให้เพื่อนพนักงานทุกคนได้มีโอกาสในการดื่มน้ำฟรี ดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และที่สำคัญเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมขอเราไปด้วยครับ"

นโยบาย + โครงการ = ประสิทธิภาพที่เป็นจริง

คุณขจรเล่าว่า นอกจากตัวอุปกรณ์ที่คิดค้นมาอย่างดีแล้ว สิ่งที่ต้องมาพร้อมกับอุปกรณ์ด้วย นั่นคือความร่วมมือของจากทั้งพนักงานรวมไปจนถึงร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ในอาคารทั้งหมด โดยจะเริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของการปรับพฤติกรรมของตัวพนักงาน ให้ติดนิสัยการนำกระติกน้ำหรือขวดอลูมิเนียมของตัวเองมาจากบ้าน ผ่านโปรโมชันอย่างการลดราคาค่าเครื่องดื่มจากร้าน True Coffee เป็นต้น

ตลอด 20-30 ปีที่ผ่านมา กลุ่มทรูยังมีอีกหลายโครงการที่ทำเพื่อสิ่งแวดล้อม จนทำให้กลุ่มทรู ได้รับการจัดอันดับ เป็นที่ 1 องค์กรดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI 2022 ใน Emerging Market กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน และหลังจากนี้โครงการ RO Water จะถูกขยายไปยังอาคารอื่น ๆ ของบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี รวมถึงอาคารของกลุ่มทรู   อีกทั้งยังถูกส่งต่อไปยังวงกว้างผ่านตัวพนักงาน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญไปในการถ่ายทอดแนวคิดรักษ์โลก ไปยังสังคมรอบข้างอีกด้วย  

"แรงบันดาลใจในการจัดทำโครงการนี้ ไม่ได้มาจากแค่เป้าหมายของบริษัทที่ต้องการจะช่วยโลกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เริ่มต้นจากสถาบันที่เล็กที่สุดอย่างครอบครัว นำไปสู่คนใกล้ตัว สู่พนักงานและสู่สังคม"