รีเซต

ทรัมป์ประกาศข้อตกลงสันติภาพ ‘อิสราเอล-บาห์เรน’

ทรัมป์ประกาศข้อตกลงสันติภาพ ‘อิสราเอล-บาห์เรน’
มติชน
12 กันยายน 2563 ( 13:00 )
112

บาห์เรนกลายเป็นประเทศที่ 2 ในกลุ่มประเทศอาหรับที่ได้ทำความตกลงสันติภาพและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับอิสราเอล หลังจากที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้ประกาศสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอลอย่างเป็นทางการไปก่อนหน้านี้

 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้เป็นผู้ประกาศข้อตกลงสันติภาพดังกล่าวให้สาธารณชนรับทราบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ เนื่องจากเป็นความพยายามภายใต้การผลักดันของรัฐบาลสหรัฐของทรัมป์ที่จะจัดการกับปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

 

ทรัมป์ระบุว่า นับเป็นวันประวัติศาตร์อย่างแท้จริงระหว่างอิสราเอลกับบาห์เรน ที่ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้าระหว่างกันอย่างเต็มรูปแบบ จากนี้จะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตและเปิดสถานเอกอัครราชทูตระหว่างกัน รวมถึงจัดให้มีเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ เริ่มต้นความร่วมมือในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาธารณสุข เทคโนโลยี การศึกษา ความมั่นคง การเกษตรไปจนถึงการทำธุรกิจ

 

แถลงการณ์ร่วมระบุว่า บาห์เรนได้ตกลงที่จะปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอล โดยจะมีพิธีเฉลิมฉลองเกิดขึ้นในวันอังคารหน้าที่ทำเนียบขาว เช่นเดียวกับที่ยูเออีได้เคยทำพิธีประกาศการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้สมเด็จพระราชาธิบดีฮะมัด บิน อีซา อัลเคาะลีฟะห์ ของบาห์เรน นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และทรัมป์ ได้โทรศัพท์หารือกันในช่วงเช้าวันศุกร์ ก่อนที่ทรัมป์จะออกมาประกาศข้อตกลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

 

กษัตริย์บาห์เรนตรัสระหว่างการหารือทางโทรศัพท์โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องมีสันติภาพที่แท้จริงและครอบคลุมเป็นทางเลือกทางยุทธศาสตร์ โดยต้องสอดคล้องกับทางแก้ 2 รัฐ (คืออิสราเอลและปาเลสไตน์มีสถานะเป็นรัฐที่มีอำนาจปกครองตนเอง และมีสิทธิในดินแดนบางส่วนร่วมกัน) และข้อมติที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ

 

ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลบาห์เรนระบุว่า ข้อตกลงสันติภาพดังกล่าวจะช่วยเพิ่มพูนความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง