ไม่เคยซบเซา! ตลาดหมาไฮโซ ธุรกิจกำลังซื้อเหนียวแน่น แม้ในยุคไวรัสระบาด
เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ที่ทั่วโลกเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป ทั้งสังคม การคมนาคม ชีวิตประจำวัน และสภาพเศรษฐกิจ ที่ธุรกิจน้อยใหญ่ต่างก็ได้รับผลกระทบจน เจ็บหนัก ไปตามๆ กัน
แต่ก็มีธุรกิจอีกไม่น้อยที่ยังคงอยู่ได้ หนึ่งในนั้นคือธุรกิจ ฟาร์มสุนัข ซึ่ง เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้คุยกับ คุณบี-พักตร์วิมล ทองทา วัย 51 ปี คุณเป้-บุญนำ รุ่งเรืองอารี วัย 46 ปี และ คุณหมี-กิตติศักดิ์ เลิศตระกูลเสรี วัย 36 ปี เจ้าของธุรกิจฟาร์มสุนัข Asia Big Dog
พวกเขา เล่าว่า ฟาร์มแห่งนี้เปิดมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว แม้จะเป็นฟาร์มใหม่แต่เจ้าของทั้งสามมีประสบการณ์การทำธุรกิจฟาร์มสุนัขมาคนละกว่า 10 ปี โดยคุณบีเคยทำฟาร์มสุนัข asiapuppy นำเข้า-ส่งออก สุนัขหายากกว่า 60 สายพันธุ์ โดยเฉพาะสุนัขสายพันธุ์ยุโรป เธอทำมากว่า 30 ปี
กระทั่งตัดสินใจวางมือและขายกิจการที่เก่าไป ด้วยความที่รู้จักกันอยู่แล้ว คุณเป้และคุณหมีที่ทำฟาร์มสุนัขขายในประเทศกันเป็นส่วนใหญ่ จึงชักชวนให้คุณบีมาทำฟาร์มสุนัขด้วยกันอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของฟาร์ม Asia Big Dog
“พี่บีถนัดคัดหมานอก ขายต่างประเทศ ส่วนเป้กับหมีมีฟาร์มของตัวเองกัน และก็ถนัดขายในประเทศมากกว่า ก็ได้คุยกันแล้วคลิก เพราะพี่บีก็มีประสบการณ์คัดหมานอกเยอะ เลยร่วมหุ้นทำธุรกิจด้วยกัน โดยโฟกัสการนำเข้าหมาต่างประเทศ” คุณเป้ เล่า
โดยสุนัขสายพันธุ์ยุโรป หรือที่ทั้งสามเรียกกันว่าหมานอกนั้น แต่ละตัวราคาหลักหลายแสนบาท ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์เกรดคุณภาพ บางตัวเป็นสุนัขที่มีลักษณะหายาก หรือสายพันธุ์อาจจะมีการประกวดได้แชมป์มา
ด้านมาตรฐานฟาร์ม นอกจากคัดคุณภาพสุนัข สายพันธุ์ สีสันแล้ว ปกติคุณบีจะบินไปถึงยุโรปเพื่อไปดูทุกอย่างด้วยตัวเอง จึงการันตีลูกค้าได้ว่าตรงปก จึงถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของที่นี่
“ที่เราเน้นบินไปคัดเอง นำเข้าจากยุโรปและอเมริกาเอง เป็นการส่งของดีมีคุณภาพให้ลูกค้ามากกว่า เพราะหมาตัวหนึ่งก็อยู่ด้วยกันเป็นสิบปี การที่หมาตัวหลักแสนหรือหลักล้านมันไม่ได้แพงอะไร ถ้าตัวสวยและมีคุณภาพจริงๆ ฉะนั้น การที่เราจะเลี้ยงหมาสักตัว เราอยากจะให้ตัวเองมีความสุข หมามีความสุข อยู่กับเราไปตลอดชีวิต เราจึงเลือกที่จะคัดสรรแต่สิ่งดีๆ ให้ลูกค้า คนอาจจะมองว่าราคาสูง แต่เทียบกับคุณภาพแล้วมันก็ไม่ได้สูงอะไรเลย” คุณบี ว่าอย่างนั้น
เมื่อถามถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง ทั้งสามร่วมให้ข้อมูลว่า เนื่องจากในสถานการณ์ปกติ คุณบีจะเป็นคนบินไปคัดเลือกและนำเข้ามาให้ลูกค้าด้วยตัวเอง แต่เมื่อเกิดโควิด-19 ขึ้น ทำให้เธอไม่สามารถไปคัดเลือกได้ดังปกติ แต่ด้วยประสบการณ์และคอนเน็กชั่นตลอด 30 ปีของคุณบี ทำให้เธอมีเพื่อนในต่างประเทศที่พร้อมจะไปดูที่ฟาร์มแทนให้ได้
“เรื่องกระทบลูกค้าไหม ก็มีบ้างนิดหน่อย คือปกติก็ทำส่งออกให้ลูกค้าที่อินเดีย ปากีสถานด้วย ช่วงนี้ก็ส่งไม่ได้ แต่สำหรับคนไทยบางกลุ่มที่เราทำให้อยู่ ก็ไม่กระทบเท่าไหร่ ในส่วนพรีออร์เดอร์ก็จะได้รับผลกระทบนิดหน่อย ลูกค้าบางคนอยากได้พันธุ์นี้ อาจจะล่าช้ากว่าปกติไปบ้าง แต่โดยรวมลูกค้าก็ยังมีกำลังซื้อกันอยู่ เพราะเราก็มีลูกค้าส่วนใหญ่เราก็เป็นกลุ่มตลาดบน เลยยังอยู่ได้ค่ะ” คุณบี ว่าอย่างนั้น
“ถามว่ารายได้ดรอปไหม ก็ไม่ได้ดรอปมาก เพราะลูกค้ากลุ่มที่มีความต้องการยังมาซื้อปกติ แต่ถ้าให้ตีก็ 10% ในส่วนส่งออก แต่เราก็ยังมีลูกค้าใหม่ๆ ในประเทศที่เข้ามาเจอเราก็มี ก่อนหน้าโควิด เรียกว่าเราทำตลาดไทยน้อยมาก แทบจะ 100% เป็นตลาดต่างประเทศ แต่ส่วนของพี่เป้กับผมก็ทำตลาดไทยอยู่ แต่ตอนนี้เราก็มาเฉลี่ยกัน” คุณหมี เล่า
นอกจากนี้ คุณเป้ ยังกล่าวเสริมว่า หากหมดโควิดแล้ว คุณบีก็มีแผนบินไปนอกเหมือนเดิม และทำสุนัขที่เกิดในไทยออกขายเมืองนอกด้วย เพราะทางฟาร์มคัดเอาสายพันธุ์ดีๆ เข้ามาต่อสายให้สุนัขคุณภาพดีๆ เกิดในไทย เมื่อภายภาคหน้าที่ฟาร์มทำตลาดสุนัขที่เกิดที่ไทยไปต่างประเทศได้ ก็จะได้ทำต่อยอดเลย แล้วก็อาจจะมี สีแปลกๆ พันธุ์แปลกๆ ส่งออกเพิ่มเติม
หากใครสนใจสุนัขสายพันธุ์หายาก สามารถติดต่อได้ที่ เพจ Asia big dog