MAJORหนังดังทำเงินเพียบ โบรกมองผลงานปีนี้กำไรดี

MAJOR งบไตรมาส 2/2566 สดใส หนังทำเงินแรงหลายเรื่อง นำโดย Fast&Furious10 ทำรายได้ ทะลุ 200 ล้านบาท พร้อม Guardians of the Galaxy Vol3 , Transformers 2023 ทั้งปีผลประกอบการดี รายได้จากธุรกิจป๊อบคอร์นขายดี แถมไตรมาส 2/2566 บันทึกำไรพิเศษจากการขายหุ้น MPIC โบรกฉายกำไรทั้งปี2566 ที่ 766 ล้านบาท ประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 20.25 บาท
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากมีหนังที่ได้รับความสนใจเข้าฉายหลายเรื่อง อาทิ Fast&Furious 10 ที่ทำรายได้กว่า 200 ล้านบาท ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2566 นอกจากนี้ Guardians of the Galaxy Vol3 รวมไปถึง Transformers 2023 ที่ได้รับความสนใจจากประชาชน และทำรายได้ได้ดีต่อเนื่อง และยังมีหนังที่เตรียมเข้าฉายอีกหลายเรื่อง ทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศ
Fast 10 รายได้ทะลุ 200 ล.
ขณะที่ธุรกิจป๊อบคอร์นนอกโรงหนัง (Out Cinema) ก็ยังเติบโตได้ดี จำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด, และร้านสะดวกซื้อซึ่งจะสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในโครงสร้างรายได้อาจจะไม่ได้ขยายมากขึ้น เพราะในส่วนของธุรกิจโรงหนังก็เติบโตได้ดีเช่นเดียวกันในปีนี้ พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าในการขยายจอภาพยานยนตร์ต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโต โดยปีนี้บริษัทวางแผนขยายจอเพิ่มอีกราว 40-50 จอ โดยงบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท แต่ส่วนงบลงทุนรวมจะอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท
“ขณะนี้ หนังที่เข้าฉายหลายเรื่อง ที่ได้รับความนิยม และมีผู้เข้าชมต่อเนื่อง แต่อันดับหนึ่งขณะนี้จะเป็นเรื่อง Fast&Furious 10 ที่ได้รับกระแสตอบดี ยอดขาย ณสิ้นวันที่ 11 มิถุนายน ทำได้กว่า 200 ล้านบาท แล้วทำให้ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะทำได้ดี ดีกว่าจากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากก่อนไตรมาสก่อนหน้าด้วย และส่วนยอดขายอื่นๆ เติบโตได้ดี อย่างในส่วนของธุรกิจป๊อบคอน”ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ในช่วงไตรมาส 2/2566 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น ได้ขายหุ้นบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC จำนวน 1,202 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 92% ในราคาซื้อขาย 0.54 บาท รวมมูลค่า 650 ล้านบาท โดยขายให้กับนายขันเงิน เนื้อนวล ก็จะเห็นผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นจากการบันทึกกำไรพิเศษในส่วนนี้ด้วย
กำไรปีนี้เติบโต 198%
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง MAJOR มีมุมมองเป็นกลางต่อดีลในการขายหุ้น MPIC ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าบริษัทจะบันทึกกำไร จาก MPIC หลังหักต้นทุนราว 228 ล้านบาท ใน ไตรมาส 2/2566 ส่วนผลกระทบหลังการขาย MPIC ต่อส่วนแบ่งกำไรมองว่าไม่มาก เนื่องจากปกติผลประกอบการของ MPIC ไม่ได้สูง
ด้านผลประกอบการ คาดกำไรปกติ ไตรมาส 2/2566 จะฟื้นตัว จากไตรมาสก่อนหน้า และจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเข้า High Season ของอุตสาหกรรม มีหนังฟอร์มใหญ่ รอฉายหลายเรื่อง อาทิ Fast&Furious10 , Guardians of the Galaxy Vol3 และ The Little Mermaid เป็นต้น
อีกทั้งประมาณการกำไรปกติปี 2566 ที่ 766 ล้านบาท เติบโต 198% เนื่องจากเมื่อเทียบปีก่อน ในครึ่งปีแรกยังมีผลกระทบจาก COVID-19 ขณะที่ปีนี้ โรงภาพยนตร์กลับมาฉายปกติทุกโรง และมี ภาพยนตร์ทั้งฮอลลิวู้ดฟอร์มใหญ่ รวมถึงหนังไทยที่ ฉายจำนวนมาก
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มองว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวโดดเด่นในปี 2566 จากฐานที่ต่ำ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ที่บรรเทาความรุนแรงลง ขณะที่เริ่มเห็น Synergy จากการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการขยายธุรกิจใหม่ๆ อาทิ การจับมือกับ TKN ผลิตป๊อบคอร์น และเพิ่มช่องทางการขายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังร่วมกับ BEC และ Workpoint ในการสร้างภาพยนตร์ เป็นต้น ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 20.25 บาท