เงินบาทเปิดตลาดแข็งค่าเล็กน้อย

เช้าวันนี้ (12 มิถุนายน 2568) ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.55 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 32.64 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ลักษณะ Sideways Down ระหว่าง 32.53 - 32.69 บาทต่อดอลลาร์

นักกลยุทธ์ตลาดการเงินจาก Krungthai GLOBAL MARKETS นายพูน พานิชพิบูลย์ ชี้ว่า การแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับทิศทางอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และการดีดตัวขึ้นของราคาทองคำ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์

ดอลลาร์อ่อนค่าหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด

ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 2.4% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) อยู่ที่ 2.8% ทั้งสองตัวเลขต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้ตลาดเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะลดดอกเบี้ย สองครั้งในปีนี้ โดยความน่าจะเป็นเพิ่มจาก 70% เป็น 100%

ความคาดหวังดังกล่าวยังกระตุ้นให้ตลาดคาดการณ์ว่าในปีหน้า Fed อาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง และมีความเป็นไปได้ราว 20% ที่จะลดครั้งที่ 3

ราคาทองคำพุ่งขึ้นหนุนเงินบาท

นอกจากข้อมูลเงินเฟ้อแล้ว ราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างต่อเนื่องก็เป็นอีกแรงหนุนต่อการแข็งค่าของเงินบาท โดยราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนสิงหาคม 2025 ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 3,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อที่เกิดขึ้นในช่วงที่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางและการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน กลับมาเป็นประเด็นร้อน

แรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของ ราคาน้ำมันดิบกว่า 4.1% หลังสหรัฐฯ รายงานยอดสต็อกน้ำมันลดลงมากกว่าคาด ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันฝั่งอ่อนค่าของเงินบาท เนื่องจากธุรกรรมการนำเข้าน้ำมันของไทยส่งผลต่ออุปสงค์ของดอลลาร์สหรัฐฯ ในตลาดเงินไทยโดยตรง

สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยเสี่ยงสองทาง

สถานการณ์ในตะวันออกกลาง แม้จะหนุนราคาทองคำในระยะสั้น แต่ Krungthai GLOBAL MARKETS ชี้ว่าเป็นเพียง “Noise ชั่วคราว” และอาจไม่เพียงพอจะหนุนให้ราคาทองคำทะลุแนวต้านหลักที่ 3