อบต.บางน้ำผึ้ง ลุยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในโรงเรียน วัด และ ชุมชน พร้อมลงชุมชนแจกหน้ากากผ้า
นายสำเนาว์ รัศมิทัต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง ลุยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในโรงเรียน วัด และ ชุมชน พร้อมลงชุมชนนำหน้ากากผ้าแจกลูกบ้านทุกหลังคาเรือน
เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 28 มีนาคม 2563 ที่โรงเรียนวัดบางน้ำผึ้งใน อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ นายสำเนาว์ รัศมิทัต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง ได้นำเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้าน นำน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส มาทำการฉีดพ่นภายในโรงเรียนวัดบางน้ำผึ้งในและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัส โควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ก่อนทำการเคลื่อนย้ายไปฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโดยรอบวัดบางน้ำผึ้งใน ที่อยู่ติดกัน ทั้งภายในศาลาและเมรุเผาศพ เนื่องจากที่ผ่านมามีประชาชนเข้าไปใช้เป็นจำนวนมาก หวั่นเป็นสถานที่แพร่เชื้อ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ อสม.และสาธารณสุขร่วมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านได้เข้าทำการแจกจ่ายแมสผ้าปิดปากเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อไวรัสให้กับประชาชนภายในชุมชมหลังวัดและชุมชนต่าง ๆ โดยได้มีการกระจายเจ้าหน้าที่ออกไปแจกจ่ายและแนะนำวิธีการปฎิบัติตัวในระหว่างที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และการเก็บตัวอยู่ในบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่
นายสำเนาว์ รัศมิทัต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง ได้กล่าวว่า วันนี้ เราได้มาทำความสะอาด โรงเรียน วัด และชุมชน หมู่บ้าน และแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนคนละ 1 ชิ้น หากบ้านหลังไหนมี 10 คน ก็ได้ 10 ชิ้น พร้อมทำความสะอาดหน้าบ้าน เพื่อทำให้เห็นว่า เราไม่ได้ทอดทิ้งชาวบ้าน เพราะทุกคนก็กลัวโรคโควิด-19 กันทั้งนั้น หากเราเข้ามาดูแลชาวบ้าน อย่างน้อยก็จะได้เกิดความอุ่นใจและสบายใจมากยิ่งขึ้น และอยากให้ทุกหน่วยงานออกมาช่วยกันทุกคน เพราะชาวบ้านเขาเสียภาษีให้เรา เมื่อยามเขาตกทุกข์ได้ยาก ทั้งพนักงาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อสม. ต้องออกมาช่วยกัน เพื่อให้ชาวบ้านได้คลายความทุกข์ โดยเฉพาะคนไข้ติดเตียง ผู้สูงอายุ และเด็ก เราต้องใส่ใจ โดยได้มอบหมายให้ อสม. ลงพื้นที่อยู่ตลอดเวลา เพื่อดูแลอย่างทั่วถึง และต้องมีการเฝ้าระวังมากขึ้น อย่าไปกลัวว่าเมื่อเข้าไปหาชาวบ้านแล้วจะติดโควิด เราต้องช่วยกัน เราป้องกันตัวเราเองให้ดี
ทุกท้องถิ่นต้องออกมาช่วยกัน เมื่อยามชาวบ้านเขาเดือดร้อน ผู้บริหารของท้องถิ่นต้องไม่อยู่กับที่ แต่เราต้องออกมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำความเข้าใจและออกปฏิบัติหน้าที่ปูพรมให้ทั่ว เชื่อว่าในพื้นที่นั้นๆ จะต้องรอดจากโรคโควิด-19 อย่างแน่นอน หากใครแปลกปลอมเข้ามาในพื้นที่ ก็ต้องมีการทำบันทึกว่ามาจากไหน รวมทั้งใครกลับมาจากต่างประเทศ ก็จะเข้าไปพูดคุยว่าให้อยู่แต่ในบ้านก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ส่วนหน้ากากอนามัยที่แจกประชาชนนั้น ก็เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของพนักงานเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันเย็บหน้ากากกันเอง ไม่ได้ไปซื้อที่ไหน ชาวบ้านคนไหนที่มาช่วยทำหน้ากากอนามัย ทาง อบต.ก็จะจ่ายค่าแรงคนละ 240 บาท ทำให้สามารถผลิตหน้ากากอนามัยครบตามจำนวนที่จะแจกชาวบ้านได้ครบทุกหลังคาเรือน