รีเซต

ไซปรัสประกาศข้อจำกัดโควิด-19 ชุดที่ 8 ในรอบเดือน

ไซปรัสประกาศข้อจำกัดโควิด-19 ชุดที่ 8 ในรอบเดือน
Xinhua
22 ธันวาคม 2564 ( 18:19 )
64
ไซปรัสประกาศข้อจำกัดโควิด-19 ชุดที่ 8 ในรอบเดือน

ข่าววันนี้ 22 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (21 ธ.ค.) หน่วยงานด้านสาธารณสุขของไซปรัสประกาศข้อจำกัดต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชุดใหม่เป็นครั้งที่ 8 ในรอบเดือน หลังยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มสูงท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอนมิคาลิส ฮาดิปานเตลาส รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของไซปรัสระบุว่า ตั้งแต่วันพุธ (22 ธ.ค.) เป็นต้นไป พนักงานทุกคน ยกเว้นผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นแล้ว จะต้องแสดงผลการทดสอบพีซีอาร์หรือผลตรวจโรคโควิด-19 ชนิดเร็วเป็นลบทุกสัปดาห์ จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่สถานที่ทำงานตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 2022 ไซปรัสจะลดอายุการใช้งาน เซฟพาส (SafePass) หรือใบรับรองการหายป่วยจากโรคโควิด-19 จาก 6 เดือนเหลือเพียง 3 เดือนเมื่อวันอังคาร (21 ธ.ค.) ที่ประชุมสภาคณะรัฐมนตรีของไซปรัสตัดสินใจเลื่อนกำหนดการเปิดโรงเรียนหลังหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส 2 สัปดาห์ จากวันที่ 7 ม.ค. ไปเป็น 10 ม.ค.

 

โดยนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนทุกคนที่มาเข้าเรียนจะต้องแสดงผลการตรวจแอนติเจนชนิดเร็วเป็นลบในระยะ 72 ชั่วโมงตั้งแต่วันพุธ (22 ธ.ค.) จนถึงวันที่ 6 ม.ค. เด็กวัย 12-17 ปีที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จะต้องแสดงผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบในระยะ 72 ชั่วโมง ก่อนเข้าสู่ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และงานแต่งงาน ทั้งยังต้องมีผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนแล้วไปด้วยฮาดิปานเตลาสระบุว่าประชาชนสามารถรวมตัวกันเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ในบ้านพักส่วนบุคคลได้สูงสุด 20 คนเช่นเดิม พร้อมแนะนำให้ทุกคนทดสอบโรคโควิด-19 ก่อนรวมตัวสังสรรค์เมื่อวันอังคาร (21 ธ.ค.) หน่วยงานสาธารณสุขของไซปรัสเริ่มแจกจ่ายชุดตรวจโรคโควิด-19 ชนิดเร็ว 5 ชุดให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมแนะนำให้ทุกคนตรวจเชื้อก่อนเข้าร่วมการพบปะกัน หรือเดินทางไปยังสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่นไซปรัสเริ่มใช้มาตรการชุดใหม่หลังยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันพุ่งสูงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแตะที่ราว 700 รายต่อประชาชนไม่ถึง 1 ล้านคน นอกจากนี้หน่วยงานด้านสาธารณสุขยังตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอนหลายรายส่วนชุดมาตรการที่ไซปรัสประกาศไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด รวมถึงข้อจำกัดด้านการเดินทาง จะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2022

ข่าวที่เกี่ยวข้อง