รีเซต

ชาวเกาะเกร็ดระทม น้ำไหลแรงดันฝาบ้านพัง เกือบถูกไฟดูด จุกอกพ้อไม่เหลืออะไรแล้ว

ชาวเกาะเกร็ดระทม น้ำไหลแรงดันฝาบ้านพัง เกือบถูกไฟดูด จุกอกพ้อไม่เหลืออะไรแล้ว
มติชน
4 ตุลาคม 2565 ( 12:42 )
64

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางวันดี ตันดิลก อายุ 68 ปี อาชีพ ค้าขาย ว่าบ้านพังน้ำทะลักหนีตายจ้าละหวั่นกัน

 

นายไมตรี อินทนาม อายุ 72 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป 2 สามีภรรยา เจ้าของบ้าน ชาวตำบลเกาะเกร็ดหมู่ 5 อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ว่าข้างฝาบ้านถูกแรงดันน้ำที่ไหลแรง และมีปริมาณมากเนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายชั่วโมงทำให้ปูนข้างฝาบ้าน ต้านน้ำไม่ไหวเกิดเสียงระเบิดดังเปรี้ยง ก่อนปูนฝาบ้านจะระเบิดแตกหักทำให้น้ำทะลักเข้าไปในบ้านจมทั้งหลังในพริบตา ตู้เย็น พัดลม ทีวี ถูกแรงดันน้ำพัดกระเด็นไปคนละทิศคนละทางจมน้ำพังเสียหายทั้งหมด เจ้าของบ้านต้องวิ่งหนีตายและรีบไปตัดกระไฟฟ้าได้ทันไม่อย่างนั้นอาจจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากการถูกไฟดูด

 

 

นางวันดี ตันดิลก อายุ 68 ปี อาชีพ ค้าขาย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.11 น. สามีตนได้ยินเสียงฝาบ้านดังแล้วมาบอก ซึ่งตนก็ได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะ บริเวณฝาบ้านเหมือนกันจึงตะโกนเรียกลูกสาวชื่อเก๋ มาช่วยดูฝาบ้านที่กำลังจะถล่ม จากนั้นหลังจากได้ยินเสียงไม่นานฝาบ้านก็พังลงมาทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมถึงกระจกหน้าห้องแตกกระจายได้รับความเสียหาย เหตุการณ์วันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ตอนเกิดเหตุตนหยิบกางเกงขาสั้นออกจากบ้านมาเพียงตัวเดียว เนื่องจากต้องเอาชีวิตรอดก่อน ก็ถือว่าโชคดีที่ตนและครอบครัวไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่คืนนี้ตนและสามียังเป็นห่วงบ้านคงไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็น่าจะอาศัยนั่งพักนอนพัก ซื้อยากันยุงมาจุดที่ศาลาวัดมะขามทองชั่วคราวไปก่อนเพราะตอนนี้บ้านพังไม่มีที่อยู่

 

นายไมตรี อินทนาม อายุ 72 ปี รับจ้างทั่วไป กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาฝนตกหนักทำให้น้ำขึ้นเร็วและแรง ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงกระเบื้องดังจากพื้นภายในบ้านจึงตะโกนบอกคนในครอบครัวให้รีบวิ่งออกจากบ้าน ก่อนฝาบ้านพังลงมาทำให้ทรัพย์สินมีค่าพังเสียหาย ซึ่งบ้านหลังนี้ตนอาศัยมานานกว่า 10 ปีแล้ว

 

 

นางเกศริน อินทนาม อายุ 36 ปี ลูกสาว กล่าวทั้งน้ำตาว่า วันนี้น้ำขึ้นสูงตนก็พยายามวิดน้ำออกจากบ้านเพราะว่าบ้านตนเป็นพื้นที่ต่ำกว่าถนน ในขณะที่กำลังวิดน้ำออกตนเห็นน้ำพุ่งเข้าตามรอยแตกร้าวของฝาบ้าน จากนั้นไม่นานฝาบ้านก็พังถล่มเปรียบเสมือนกับภูเขาไฟระเบิดทำให้ทีวี ตู้เย็น พังเสียหาย รวมถึงชุดนักเรียนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่อยู่ภายในบ้าน ตอนนี้ลอยอยู่บนนี้ที่ท่วมขังภายในบ้าน ในตอนเกิดเหตุตนรีบวิ่งไปปิดสวิตซ์ไฟเพื่อไม่ให้ไฟดูด ก่อนตะโกนเรียกทั้งครอบครัวที่อยู่ในบ้านให้รีบวิ่งออกมาเนื่องจากบ้านตนเป็นบ้าน 2 ชั้น กลัวชั้นบนจะถล่มลงมา

 

“ความรู้สึกของตนตอนนี้มันจุกในอกเพราะว่าชีวิตตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้วไม่ว่าจะเป็นทีวี พัดลม ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดนักเรียนลูกและอุปกรณ์การเรียนต่างๆเสียหายทั้งหมด เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากจนไม่สามามารถหยิบสิ่งของที่มีมูลค่าออกมาได้เลย”

 

นางเกศริน กล่าวว่า ตอนนี้ก็เหลือเพียงเสื้อผ้าเพียงตัวเดียวที่ใส่อยู่ และที่นอนตอนนี้ก็ไม่มีต้องอาศัยนอนกับเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงชั่วคราวก่อน ครอบครัวตนมี 7-8 คน ที่อาศัยอยู่ร่วมกันก็ต้องแยกกระจายไปนอนที่บ้านชาวบ้านไปก่อนในตอนนี้ ซึ่งตนไม่รู้จะเริ่มชีวิตใหม่ยังไงขายของก็ไม่ได้เนื่องจากน้ำท่วมเงินทองก็ไม่มีที่จะสามารถสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยใหม่ได้ รวมถึงลูกๆก็ต้องให้หยุดเรียนหนังสือไปก่อนเพราะไม่มีชุดนักเรียนแต่งไปโรงเรียน

 

 

ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของนายไมตรีกับนางวันดี สองสามีภรรยารายนี้พบว่า ยังไม่สามารถกลับเข้าไปนอนพักอาศัยได้ หรือเก็บข้าวของที่สูญหายลอยไปกับน้ำได้เนื่องจากน้ำภายในบ้านยังท่วมสูงถึงหน้าอก

 

นายสรยุทธ ไวยทิ อายุ 17 ปี นักเรียน ปวช.ปี 2 หลานชายคุณลุงไมตรี และคุณยายวันดีเปิดเผยว่า เมื่อคืนน้ำมาเร็วมากเลยตอนนั้นตกใจ จนทำอะไรไม่ถูก เสื้อผ้าชุดนักเรียนชุดสูท หนังสือการเรียนถูกกระแสน้ำพัดหายไม่เหลือ จนได้แจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านให้ทางโรงเรียนทราบแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรจากนี้ต่อไปก็ไม่สามารถเข้าไปพักในบ้านได้

 

ส่วนคุณยายวันดีเผยว่า หลังจากน้ำท่วมฉับพลันจนบ้านและผนังข้างฝาแตกทรัพย์สินในบ้านไม่ว่าจะเป็นตู้ซักผ้าแอร์โทรทัศน์จมน้ำเสียหายหมดทั้งหลังตนเองเมื่อคืนกับครอบครัวก็จะไปนอนที่ศาลาเอนกประสงค์ท่าเรือ แต่ลูกสาวซึ่งอยู่อีกหลังแต่ก็ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน บอกว่าให้คนไปนอนที่บ้านก่อนคืนนึง อย่าไปนอนที่ศาลาเลยมันอันตราย จึงได้ไปนอนกับลูกสาวแต่ว่าจะให้นอน ทุกคืนคงเป็นไปไม่ได้เพราะเขาก็มีครอบครัวติดตั้งบ้านเขาก็ถูกน้ำท่วมก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลชุมชนหมู่ 5 เกาะเกร็ดบ้างเพราะทั้งชุมชนประสบปัญหาน้ำท่วมมานานกว่า 2 อาทิตย์แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง