ตั้งเป้าไทยเป็นฐานผลิตเวชภัณฑ์จากกัญชาทางการแพทย์ ระดับ WORLD CLASS
วันนี้ (28 ต.ค.64) ที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ทางกรมการแพทย์ และกระทรวงสาธารณสุข จะขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ให้สอดคล้องกับนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ไปจนถึงพัฒนาให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมามีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมหลายอย่าง ทั้งการเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ทั่วประเทศ ไปจนถึงการอนุญาตให้ประชาชนผลิต และนำไปใช้เพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์ ซึ่งขวบปีที่ผ่านมา มูลค่าของสินค้าที่เกี่ยวข้องพุ่งสูงถึงกว่า 7 พันล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งเดินหน้านโยบายสำคัญโดยเฉพาะการให้ประเทศไทยเป็นฮับการแพทย์ และกัญชาทางการแพทย์ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากนานาชาติ ซึ่งไทย มีเป้าหมายว่าจะเป็นฐานการผลิตยาจากกัญชา และคุณภาพของสินค้า ต้องได้รับการยอมรับในระดับโลก ต้องเป็น World Class
นอกจากนั้น ยังหวังให้กัญชาทางการแพทย์ของไทย เป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไปจนถึงช่วยแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน
งานลงนามที่จะเกิดขึ้นนี้ ได้รับเกียรติจากนายอนุทิน มาเป็นประธานเปิดงาน ในงาน เราจะได้เห็นทิศทางของนโยบายกัญชาทางการแพทย์ของประเทศไทย ทั้งในเรื่องของการแพทย์ และเศรษฐกิจ นอกจากนั้น ยังมีนักวิจัยไทย และในระดับนานาชาติ มานำเสนอความรู้เกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ เพื่อรักษาอาการป่วยประเภทต่างๆ
อาทิ Dr.Mara Bilibajkich แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาทางการแพทย์ ประเทศแคนาดา, เรืออากาศเอกนายแพทย์สมชาย ธนะสิทธิชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี , แพทย์หญิงอาภาศรี ลุสวัสดิ์ สถาบันประสาทวิทยา , แพทย์หญิงชนิศา เกียรติสุระยานนท์ สถาบันโรคผิวหนัง
“นับตั้งแต่กระทรวงขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ เรามั่นใจว่า มาถูกทาง เป็นเรื่องที่ประชาชนได้ประโยชน์ ที่ผ่านมา ยอดการเข้าใช้บริการทางการแพทย์ แผนกัญชาทางการแพทย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในทุกวันมีการขออนุญาต นำกัญชาทางการแพทย์ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า
สะท้อนถึงความตื่นตัวของภาคประชาชนที่มีต่อกัญชาทางการแพทย์ ภาพลักษณ์ของกัญชา ทางการแพทย์เปลี่ยนไป คนไทยเข้าใจประโยชน์ของพืชชนิดนี้มากขึ้น ที่สำคัญ คือ ประเทศไทย เรามีศูนย์วิจัยกัญชาทางการแพทย์ระหว่างประเทศ (IMCRC) ที่ทําร่วมกับภาคเอกชน ภาครัฐและกลุ่มแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกัญชาทางการแพทย์
จึงถึงเวลาที่เราจะต้องแสดงศักยภาพของประเทศไทยที่พร้อมเป็นแหล่งความรู้ด้านการวิจัย การสกัด และเป็นฐานใน การผลิต พัฒนายาจากกัญชาระดับโลก ให้นานาชาติ ได้เห็นความพร้อมของไทย ซึ่งจะช่วยผลักดันให้กัญชาทางการแพทย์ของประเทศไทย กลายเป็นจุดดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยว และนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทย ที่เป็นไปตามแนวทางของท่านรัฐมนตรีอนุทิน” อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุ
ภาพจาก AFP