รีเซต

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 "รถไฟฟ้าสายสีชมพู - สีเหลือง" ขยายเวลาให้บริการปิดตี 2

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 "รถไฟฟ้าสายสีชมพู - สีเหลือง" ขยายเวลาให้บริการปิดตี 2
TNN ช่อง16
31 ธันวาคม 2566 ( 08:40 )
164
1

รถไฟฟ้าสายสีชมพู เริ่มเก็บค่าโดยสาร  7 มกราคม 2567 ส่วนคืนวันสิ้นปี 2566 'สายสีชมพู และ สายสีเหลือง' ขยายเวลาให้บริการปิดตี 2

เนื่องในโอกาสเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 บริษัทบางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ร่วมกับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (MRT) ขยายเวลาให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ทุกสถานี ในคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 ถึงเวลา 02.00 น. ของวันจันทร์ที่ 1 มกราคม 256 โดยรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทาง เวลา 02.00 น. และขบวนสุดท้ายที่จะออกจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) ไปปลายทางสถานีมีนบุรี (PK30) เวลา 02.34 น. และไปปลายทางสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เวลา 02.32 น.


สำหรับตารางเวลารถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของแต่ละสถานีสามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชัน The SKYTRAINs หรือห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี และสำหรับอาคารจอดแล้วจร สถานีมีนบุรี (PK30) จะเปิดให้บริการฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรม สังสรรค์ หรือชมแสงสีในคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้


เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ด้วยการใช้ บัตรแรบบิท หรือเลือกใช้ บัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Tickets) ซึ่งสามารถซื้อบัตรโดยสาร ไป - กลับ ไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวก และหลีกเลี่ยงความหนาแน่นบริเวณชั้นจำหน่ายบัตรโดยสาร ในช่วงเวลาดังกล่าวได้


ภาพจาก รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู

 


เช่นเดียวกับ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ขยายเวลาให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ทุกสถานี ในคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 ถึงเวลา 02.00 น. ของวันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2567
โดยรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทาง เวลา 02.00 น. สำหรับตารางเวลารถไฟฟ้าขบวนสุดท้าย สามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชัน The SKYTRAINs หรือห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี


สำหรับอาคารจอดแล้วจร (สถานีศรีเอี่ยม YL17) จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่คิดค่าปรับค้างคืน โดยคิดอัตราค่าบริการจอดรถตามปกติ


ภาพจาก รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง

 





รถไฟฟ้าสายสีชมพู เริ่มเก็บค่าโดยสารเมื่อไร?


นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยและได้มอบหมายให้ตนติดตามการดำเนินงานรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ภายหลังเกิดเหตุรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (Conductor rail) หลุดร่วงลงชั้นพื้นถนนและเกี่ยวสายไฟฟ้า บริเวณถนนติวานนท์ ระหว่างสถานีแคราย ถึง สถานีแยกปากเกร็ด เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น ในวันนี้ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและทดลองเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูฯ จากสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 (PK08) ถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) เพื่อติดตามและตรวจสอบความเรียบร้อยในการดำเนินงาน 


โดยเฉพาะการเร่งติดตั้งระบบรางจ่ายไฟให้แล้วเสร็จ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหลังจากทดลองการเดินรถในวันนี้ ทางบริษัท NBM ผู้รับสัมปทานจะดำเนินการปรับรูปแบบการเดินรถในส่วนของสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึง สถานีกรมชลประทาน (PK05) โดยจะเปิดเดินรถแบบวิ่งไป-กลับทางเดียวก่อน (Shuttle) ส่วนสถานีอื่นๆ จะเปิดใช้งานทางรถไฟฟ้าได้ทั้งสองฝั่งตามปกติ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2566 


ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปปลายทางสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) และปลายทางสถานีมีนบุรี (PK30) จะต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าที่สถานีกรมชลประทาน (PK05) โดยใช้ชานชาลาที่ 1 พร้อมกันนี้ ทางบริษัทผู้รับสัมปทาน NBM ได้ดำเนินการเปิดใช้ทางเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู กับรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และทางเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เรียบร้อยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ


อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับ ขร. รฟม. และ NBM มีความเห็นร่วมกันว่า จะขยายระยะเวลาการเปิดทดลองให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู โดยไม่มีค่าใช้จ่ายจากเดิม 2 มกราคม 2567 เป็นวันที่ 6 มกราคม 2567 ทั้งนี้ ในวันที่ 7 มกราคม 2567 จะเริ่มเก็บค่าโดยสารตั้งแต่สถานีกรมชลประทาน (PK05) ถึง สถานีมีนบุรี (PK30) และยกเว้นการเก็บค่าโดยสารในส่วนของสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึง สถานีสามัคคี (PK04) จำนวน 4 สถานี จนกว่าจะดำเนินการแก้ไขรางจ่ายไฟแล้วเสร็จ โดยระหว่างนี้จะลดอัตราค่าโดยสารลง 15% จากอัตราปกติ ซึ่งจะมีอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 13-38 บาท เพื่อคงไว้ซึ่งประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ





ภาพจาก TNN Online

ข่าวที่เกี่ยวข้อง