'สงกรานต์' ให้ใส่แมสก์เล่นน้ำได้ในพื้นที่ขออนุญาตจัดงาน แต่ห้ามประแป้ง-ปาร์ตี้โฟม
วันที่ 19 มีนาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เห็นชอบมาตรการป้องกันโควิดช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยให้พื้นที่ที่ขออนุญาตจัดงานเล่นน้ำได้ แต่ต้องใส่แมสก์ตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะผอ.ศบค.เป็นประธานว่า สธ.เสนอมาตรป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยสามารถจัดได้ แต่ขอให้จัดแบบประเพณีดั้งเดิม คือ รดน้ำดำหัว เป็นต้น หากจัดสันทนาการต้องขออนุญาตก่อน เพราะเป็นการร่วมกลุ่มจำนวนมาก โดยมีมาตรการป้องกัน ดังนี้ 1.การเตรียมตัวก่อนร่วมงาน ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เข้าร่วมงานสงกรานต์ และกลุ่ม 608 ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ ประเมินความเสี่ยงของตนเอง หากพบว่ามีอาการ หรือมีความเสี่ยง ขอให้เลี่ยงการเข้าร่วมงาน หรือให้พิจารณาตรวจ ATK ก่อนเดินทาง/ร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กิจการ/กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานสงกรานต์ให้ลงทะเบียนบนระบบ TSC2+ และประเมินตนเองตามประเภทมาตรการ COVID Free Setting ได้แก่ การจัดกิจกรรมพิเศษ (แสดงคอนเสิร์ต/ดนตรี งานอีเว้นท์ งานเทศกาล มหกรรม) การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุนชน ศาสนาสถาน ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ ฯลฯ การขออนุญาตจัดงานให้เป็นไปตามเขตพื้นที่สถานการณ์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร กำหนด สำหรับการจัดกิจกรรมในชุมชนให้แจ้ง ศปก.ต./ศปก.อ ผู้นำชุมชน และกำหนดให้มีมาตรการในการควบคุมกำกับอย่างเข้มงวด
“2.ระหว่างช่วงงานสงกรานต์ พื้นที่จัดงานสงกรานต์ ที่มีการจัดเตรียมสถานที่และควบคุมกำกับ อนุญาตให้เล่นน้ำ และจัดกิจกรรมตามประเพณี เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การละเล่นการแสดงวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ การแสดงดนตรี โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมีการกำกับอย่างเคร่งครัด ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม ห้ามจำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน กำหนดช่องทางเข้า-ออกจากงาน จัดจุดคัดกรอง และควบคุมความหนาแน่นในพื้นที่จัดงาน (1 ต่อ 4 ตารางเมตร) สวมหน้ากากตลอดเวลา พกเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่างตลอดเวลาที่ร่วมงาน” โฆษก ศบค.กล่าวและส่วนพื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัว เช่น รดน้ำดำหัว การรับประทานอาหารร่วมกัน ให้จัดกิจกรรมในที่มีการระบายอากาศได้ดี หรือที่โล่ง ไม่หนาแน่นหรือคับแคบ สวมหน้ากากตลอดเวลา งดกิจกรรมการสัมผัสใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกัน เลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ควรได้รับวัคซีนให้ครบก่อนร่วมกิจกรรมสังสรรค์ และสัมผัสใกล้ชิดลูกหลาน ผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงห้ามร่วมกิจกรรม
โฆษก ศบค.กล่าวว่า 3.หลังกลับจากงานสงกรานต์ ให้สังเกตุอาการตนเอง 7 วัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง และผู้ที่จะไปพบปะกับผู้คนจำนวนมาก หากพบว่ามีอาการสงสัยติดเชื้อให้ทำการตรวจ ATK ขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำเป็น ในช่วงการสังเกตอาการ พิจารณามาตรการ WFH ให้เป็นไปตามความเหมาะสม และการพิจารณาของหน่วยงาน
ด้าน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า มติ ศบค. ที่ให้เล่นน้ำเทศกาลสงกรานต์ได้ ในพื้นที่จัดงานที่ขออนุญาตนั้น ตนเห็นว่ายังไม่เหมาะสม เพราะตอนนี้ยังมีผู้ติดเชื้อโควิดระดับ 2 หมื่นคนต่อวัน การสาดน้ำเล่นกันจะเพิ่มความเสี่ยง ทำให้เสี่ยงแพร่เชื้อกระจายเป็นวงกว้าง หรือซูเปอร์สเปรด และมีความเสี่ยงที่จะทำให้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์อีกด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อระบบสาธารณสุข ควรงดการเล่นสาดน้ำไปอีก 1 ปีก่อน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายมากกว่านี้