American Airlines ทุ่มเงินซื้อ Boom Overture เครื่องบินเจ็ทน้องใหม่สุดแรงมากถึง 60 ลำ
บริษัท บูม เทคโนโลยี (Boom Technology) ได้ประกาศเปิดตัวเครื่องบินโอเวอร์เจอร์ (Overture) เครื่องบินเจ็ทความเร็วเหนือเสียง หรือซูเปอร์โซนิก (Supersonic) ไปเมื่อประมาณปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ณ ขณะนั้นก็มีสายการบินยูไนเต็ด (United Airlines) และสายการบินเจแปน (Japan Airlines) ที่สนใจร่วมลงทุนและสั่งซื้อตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดสายพานการผลิต ล่าสุด สายการบินอเมริกัน (American Airlines) หนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ประกาศสั่งซื้อเครื่องบินโอเวอร์เจอร์ (Overture) ล่วงหน้า 20 ลำ และถ้าการใช้งานเป็นไปได้ด้วยดีก็จะซื้อเพิ่มอีก 40 ลำ อีกด้วย
สายการบินอเมริกันประกาศการจัดซื้อดังกล่าวในวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยการสั่งซื้อจะเป็นรูปแบบการชำระที่ไม่มีการเรียกเงินคืน (Non-refundable Deposit) จำนวน 20 ลำ ก่อนจะสั่งซื้อเพิ่มเติมอีก 40 ลำ ในอนาคตหากเที่ยวบินที่ใช้โอเวอร์เจอร์ (Overture) มีผลตอบรับที่ดี ทั้งนี้ เป้าหมายการสั่งซื้อในครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อลดเวลาการบินของสายการบินที่มีเส้นทางการบินทั่วโลกกว่า 600 เส้นทาง โดยเฉพาะในเส้นทางการบินที่มีระยะทางไกลอย่างไมอามี - ลอนดอน ที่ปกติจะใช้เวลาเดินทางร่วม 10 ชั่วโมง ให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
เบลค สกอลล์ (Blake Scholl) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินอเมริกัน (American Airlines) กล่าวว่าสายการบินจะก้าวเข้าสู่ยุคการบินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งโอเวอร์เจอร์ (Overture) เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่ช่วยให้สายการบินสามารถให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพและยังคงความได้เปรียบในด้านการบินต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยมูลค่าสัญญาซื้อขายแต่อย่างใด
โอเวอร์เจอร์ (Overture) เป็นเครื่องบินที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานฟาร์นโบโรห์ อินเตอร์แนชั่นแนล แอร์ โชว์ (Farnborough International Airshow) ประจำปี 2022 ซึ่งเป็นนิทรรศการด้านอากาศยานที่สำคัญของโลกที่จัดขึ้นที่อังกฤษ ชูจุดเด่นด้านความเร็วเหนือเสียง (Supersonic) สูงถึง 1.7 มัค หรือประมาณ 2,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมใช้เเชื้อเพลิงพลังงานสะอาดสำหรับอากาศยาน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 80 ที่นั่ง พร้อมระยะการบินไกลสุด 4,250 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 7,870 กิโลเมตร
โอเวอร์เจอร์ (Overture) อยู่ระหว่างการออกแบบและปรับปรุงเพื่อเริ่มเดินหน้าการผลิตในอีกไม่เกิน 2 ปี เพื่อให้พร้อมทดสอบการบินในปี 2026 และส่งมอบให้ลูกค้าเพื่อนำไปใช้งานได้ภายในปี 2029 ที่จะถึงนี้ ด้วยเหตุนี้ การสั่งซื้อโอเวอร์เจอร์ (Overture) ของสายการบินใหญ่ทั่วโลกตั้งแต่เครื่องบินยังไม่เริ่มการผลิตอาจเป็นสัญญาณของการปฏิวัติการบินแบบใหม่ที่หันมาเน้นความรวดเร็วและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอนาคต
ที่มาข้อมูล Engadget
ที่มารูปภาพ Boom Technology, American Airlines