รีเซต

ต่างชาติพยุงเศรษฐกิจไทย?

ต่างชาติพยุงเศรษฐกิจไทย?
ทันหุ้น
21 กันยายน 2563 ( 07:40 )
45
ต่างชาติพยุงเศรษฐกิจไทย?

ทางออกในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาให้เห็นเป็นระยะ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามี 2 โครงการด้วยนั้นที่แสดงถึงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับต่างชาติแต่เน้นในด้านคนมีเงินเป็นหลัก

 

โครงการแรกนั้นคือ การเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ โดยจะพิจารณาอนุมัติวีซ่าพิเศษ ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะท่องเที่ยวไทยระยะยาว หรือ ลองสเตย์ เข้ามาหลบโควิดในประเทศไทย

 

โดยมีข้อแม้จะต้องต้องผ่านการกักตัว 14 วัน (Alternative State Quarantine : ASQ) และมีเอกสารหลักฐานการพำนักระยะยาวในไทย เช่น เอกสารการชำระเงินของโรงแรม เอกสารการเช่าที่พักคอนโดมิเนียม เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนตุลาคม 2563

 

ตั้งเป้าเปิดให้เข้ามาได้สัปดาห์ละ 100-300 คน หรือไม่เกินเดือนละ 1,200 คน คาดหนุนรายได้เดือนละ 1,200 ล้านบาท นั้นหมายความว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาพำนักในไทยจากโครงการนี้จะใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านบาทต่อคน สูงเอาการ!

 

ดร.รณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ระบุกับทันหุ้นว่า เท่าที่ทราบมีดีมานด์ที่ต้องการจะเข้ามาที่ไทยนับหมื่นคน โดยเฉพาะชาวจีน แม้รายได้ท่องเที่ยวจะเท่ากับน้ำหยดลงผืนทราย จากรายได้เดิมที่เรามีรายได้ท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท โดยต่างชาติเป็นผู้ดันเศรษฐกิจท่องเที่ยว 70% แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่จะพึ่งพาเม็ดเงินในประเทศอย่างเดียวที่กำลังซื้อไม่ได้มากพอจะทดแทนได้

 

ซึ่งเรื่องนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภัสสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุเต็มที่ในการแบ่งให้คนไทยมาทดแทนคือ 40% ของรายได้ปีก่อน

 

หากนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบลองสเตย์นั้น กลุ่มที่จะได้รับผลดีก็ไม่พ้นโรงแรม โรงพยาบาล

 

ส่วนอีกโครงการหนึ่งที่จะเริ่มพึ่งพาต่างชาติ นั้นคือ การปรับเกณฑ์ต่างชาติเข้ามาซื้อคอนโด-กองทุนอสังหา พร้อมขยาย Smart Visa นี่คือความหวังการเอาเงินต่างชาติมาซื้อกระตุ้นอสังหา

 

โดย คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบศ.) ได้เห็นชอบในหลักการข้อเสนอการปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร และการปรับปรุงมาตรการ Smart Visa เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน ผู้บริหาร และผู้ประกอบการวิสาหกิจ เข้ามาพำนักในไทยประเทศไทย

 

แม้เกณฑ์ที่ชัดเจนจะยังไม่ออกมา แต่ประเด็นวีซ่าอยู่ในประเทศไทยที่ไม่ได้ยาว เป็นปัญหาของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด

 

ซึ่งการเคลียร์ประเด็นนี้ออกไปก็จะทำให้ ต่างชาติ กล้าเข้ามาซื้ออสังหาเและอยู่ยาวในไทยมากขึ้น

 

โดยแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ ต้องกำหนดเกณฑ์ว่าอสังหามูลค่าเท่าใด ถึงจะให้สิทธิพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้มาเลเซียเองให้ซื้ออสังหา 10 ล้านบาทขึ้นไปถึงจะได้สิทธิ์พิเศษวีซ่า 10 ปี แต่เงื่อนไขของไทยประกาศชัดว่า ต่างชาติที่ได้สิทธิ จะต้องห้ามจำนอง จำหน่าย โอน ภายในระยะเวลา 5 ปี

 

นักวิเคราะห์ มองเรื่องนี้ว่า ตลาดอสังหาไทยมูลค่า 7 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่ตลาดเป็นคนไทย ต่างชาติมีบทบาทกับอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่ถึง 10%

 

ดังนั้นหากดูชุดข้อมูลนี้จะยังไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจไทยมาก แต่ก็ยอมรับว่าการที่อสังหาขายออกจะมีเงินหมุนเพิ่มรอบเศรษฐกิจ 3-5 เท่า เพราะเกี่ยวพันกับหลายราย แต่ยังหวังมาตรการที่จะกระตุ้นการซื้อจากคนไทยผู้มีเงินมากกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งที่ลุ้นได้คือการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง ซึ่งวันนี้จำกัดอสังหาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งวันนี้อาจจะติดแบงก์ แต่ถ้าเปิดทางให้มากขึ้นมาสู่คนมีเงินเก็บแล้วไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ด้วยการลดค่าธรรมเนียนโอนจดจำนองอสังหาทุกประเทศ ก็จะช่วยได้มาก

 

ด้านนายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย ผู้มากประสบการณ์ทางการเมือง ระบุว่า ที่ผ่านมาได้ผลักดันการนำต่างชาติเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทย และเสนอประเด็นการแจกวันหยุดมากกว่าเงินไปบ้าง ซึ่งการตอบรับดังกล่าวนับว่าเป็นเรื่องที่ดี โดยที่ผ่านมาชาวเอเชียนหลายประเทศซึ่งเป็นเศรษฐีจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ สนใจที่จะมาลงหลักปักฐานในไทย แต่กลุ่มเศรษฐีดังกล่าวไม่ต้องการตึกสูง อยากได้แนวราบมากกว่า

 

ซึ่งในแนวทางการของตนนั้นการนำต่างชาติเข้ามาต้องมีการคัดเกรด อย่างกรณี อีลิทการ์ด เดิมที่ได้เสนอไปว่าควรจะให้วีซ่าพิเศษกับผู้ที่ให้เงินค่าบัตร 10 ล้านบาท แต่สรุปรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เลือกค่าบัตร 1 ล้านบาท ซึ่งมองว่า ยังไม่สามารถคัดกรองผู้ที่มีคุณภาพเข้ามาในไทยได้

 

แม้ปัจจุบันการดึงเศรษฐีต่างขาติเข้ามาในไทยยังไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจไทยมาก แต่การเริ่มเปิดทางครั้งนี้ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ไทยมีเงินนอกเข้ามาหมุนในเศรษฐกิจ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง