ธนาคารโลกเผย 'กัมพูชา' อาจเพิ่มสัดส่วน 'รถ EV' ได้ตามเป้า หากทำตามแผน
(แฟ้มภาพซินหัว : ยานพาหนะสัญจรบนถนนนโรดม บูเลอวาร์ด ในกรุงพนมเปญของกัมพูชา วันที่ 17 พ.ย. 2021)
พนมเปญ, 29 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (28 มี.ค.) รายงานของธนาคารโลกระบุว่ากัมพูชาสามารถบรรลุเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) บนท้องถนน หากมีการทำงานตามแผนการที่ออกแบบขึ้นมาได้เป็นอย่างดีรัฐบาลกัมพูชามีเป้าหมายเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้าและรถบัสโดยสารไฟฟ้าในเมืองแตะร้อยละ 40 และมีจักรยานยนต์ไฟฟ้าร้อยละ 70 ภายในปี 2050 เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยกัมพูชามียอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้ารวม 1,335 คันนับถึงปี 2023รายงานคาดว่าจำนวนยานยนต์ที่หมุนเวียนบนท้องถนนกัมพูชาอาจเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ระดับ 6 ล้านคัน เป็น 8 ล้านคัน ภายในปี 2030 และ 14 ล้านคันภายในปี 2050 ขณะที่เศรษฐกิจกัมพูชายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง"การก้าวสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ และจะช่วยให้กัมพูชาบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (ภายในปี 2050)" มาร์ยัม ซาลิม ผู้จัดการธนาคารโลกประจำกัมพูชา เปิดเผยระหว่างการเปิดตัวรายงานหัวข้อ "กัมพูชา: ข้อเสนอแนะต่อแผนงานแห่งชาติว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า" (Cambodia: Recommendations to the National Roadmap for Electric Mobility Transition)รายงานระบุว่าเพื่อรับประกันว่ายานยนต์ใหม่ๆ บนท้องถนนจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้ามากกว่ายานยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซล กัมพูชาจะต้องปฏิรูปกฎระเบียบการนำเข้าและการใช้งานยานยนต์ อีกทั้งแนะนำการดำเนินนโยบายที่กำหนดให้เลิกใช้ยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซลเมื่อถึงช่วงอายุที่กำหนด ซึ่งจะเพิ่มความต้องการยานยนต์ใหม่และเอื้อให้ยานยนต์ไฟฟ้ารุกเข้าสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้นนอกจากนั้น รายงานคาดว่าหากมองในระยะสั้น การเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในกัมพูชาจะขับเคลื่อนโดยกลุ่มผู้ใช้จักรยานยนต์ และรถสามล้อหรือรถตุ๊กตุ๊กโรส เซย์ลาวา ปลัดกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา ระบุว่ารัฐบาลกัมพูชาสนับสนุนให้ประชาชนใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าเนื่องจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นโอกาสสำหรับกัมพูชาในการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคขนส่ง บรรลุกลไกการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDC) และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050โรสระบุว่าการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้ายังสามารถช่วยให้กัมพูชารวมกลุ่มเข้ากับห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาทางอุตสาหกรรมและการสร้างงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ รัฐบาลจึงได้ลดภาษีนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2021 เหลือต่ำกว่าภาษีสำหรับยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเดิมราวร้อยละ 50เมือง ซกเมง หัวหน้าฝ่ายขายของบริษัท หมิงหยาง กั๋วจี้ เทรดดิง ซึ่งเป็นตัวแทนเพียงรายเดียวของหงฉี (Hongqi) แบรนด์ยานยนต์ของจีนในกัมพูชา ระบุว่ายานยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกัมพูชาเนื่องจากประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมบอกเล่ากับสำนักข่าวซินหัวว่าตอนนี้บริษัทฯ จำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าได้จำนวนมากทั้งแบบขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยยานยนต์ไฟฟ้าของหงฉีเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ในจีนที่มีการออกแบบสวยงามและมีคุณภาพสูงอุดม พิเซย์ ผู้จัดการแผนกยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท คาร์4ยู (Car4you) ซึ่งนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าเลติน เมนโก (Letin Mengo) ของจีน กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่ายานยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่ายานยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซล ค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมจึงถูกกว่ายานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน และช่วยประหยัดเงินเนื่องจากสามารถชาร์จได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม