รีเซต

ผวจ.โคราช กำชับ 32 อ.แจ้งเตือนปชช.รับมือไวรัส RSV หลังตรวจพบเด็กเข้าข่ายติดเชื้อ 8 ราย

ผวจ.โคราช กำชับ 32 อ.แจ้งเตือนปชช.รับมือไวรัส RSV หลังตรวจพบเด็กเข้าข่ายติดเชื้อ 8 ราย
มติชน
7 พฤศจิกายน 2563 ( 09:11 )
124
ผวจ.โคราช กำชับ 32 อ.แจ้งเตือนปชช.รับมือไวรัส RSV หลังตรวจพบเด็กเข้าข่ายติดเชื้อ 8 ราย

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน จากกระแสข่าวในนายแพทย์รายหนึ่งโพสต์ข้อความลงในโซเชียล ว่า มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส RSV ช่วงปลายฝนต้นหนาวในเด็กเล็กจำนวนมาก จนเอาไม่อยู่ และเสนอให้มีการ lock down เนอร์สเซอร์รี่ หรือ โรงเรียนที่มีเด็กป่วยหลายคน ซึ่งทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองต่างพากันแตกตื่นกับกระแสข่าวดังกล่าวเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จนนำมาซึ่งการแถลงข่าวจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา

 

โดยนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ ที่ออกมาให้ข้อมูลว่า ตรวจพบเด็กที่เข้าข่ายติดเชื้อไวรัส RSV อยู่จำนวน 30 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุระหว่าง 2-5 ขวบ เข้าแอดมิดรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาขณะนี้ จำนวน 8 ราย และทั้ง 8 รายยังไม่มีอาการรุนแรงใดๆ โดยยืนยันว่าโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ยังสามารถรับผู้ป่วยเด็กได้อีกจำนวนมาก และไม่มีสถานการณ์คนไข้มารักษาล้นหอผู้ป่วยแต่อย่างใด อีกทั้งเด็กที่ติดเชื้อไวรัส RSV ทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่เข้าเรียนในสถานศึกษาหรือเนอร์สเซอรี่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ล่าสุด นายวิเชียร จันทรโณทัย ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ทางจังหวัดฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ แล้ว โดยยืนยันว่า อยู่ในภาวะรับมือได้ มีเด็กป่วยเข้าข่ายติดเชื้อไวรัส RSV อยู่ 8 ราย และในพื้นที่ ให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะอาการของโรค รวมถึง วิธีป้องกัน และวิธีรับมือกับโรคไวรัส RSV หากตรวจพบว่า มีการติดเชื้อแล้ว ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนในจังหวัดได้ตื่นตัวรู้จักการป้องกันและรับมือกับโรคได้อย่างถูกวิธี

 

ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุข ได้รายงานลักษณะอาการของโรคติดเชื้อไวรัส RSV ว่า เป็นโรคทางเดินหายใจที่เกี่ยวกับปอด ที่ทุกช่วงอายุสามารถติดเชื้อได้ง่าย ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัส RSV หรือยารักษาเฉพาะ ต้องรักษาตามอาการ มักจะระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว สามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยผ่านทางเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือผ่านทางการสัมผัสเชื้อโดยตรงจากการจับมือ การติดเชื้อมักพบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ซึ่งในเด็กเล็กจะเป็นวัยที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรง โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทารกคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น ซึ่งบางรายที่มีอาการรุนแรง อาจถึงขั้นตัวเขียว เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

ผู้ปกครองสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ได้ ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หมั่นล้างมือให้สะอาดป้องกันการติดต่อทางการสัมผัส และทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ รวมทั้ง ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัด หรือที่สาธารณะ ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ และให้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อลดภาวะขาดน้ำและช่วยขับเสมหะ สำหรับเด็กเล็กให้แยกอุปกรณ์และภาชนะต่างๆ ของเด็ก ไม่ให้ใช้ร่วมกัน ซึ่งจะเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันบุตรหลานให้ปลอดภัยจากโรคได้เป็นอย่างดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง